ดูเหมือนว่าการลงทุนในผลิตภัณฑ์คริปโตเคอร์เรนซีมีการไหลเข้าจำนวนมากอีกครั้ง หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve) ได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย ตามรายงานจากบริษัทการลงทุนคริปโต CoinShares
โดยในช่วงวันที่ 15-21 กันยายนที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์การลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลมีการไหลเข้าเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน รวมมูลค่า 321 ล้านดอลลาร์ แม้ว่าจะน้อยกว่าสัปดาห์ก่อนหน้าที่มีการไหลเข้าถึง 436 ล้านดอลลาร์ แต่การเพิ่มขึ้นนี้เกิดขึ้นหลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงินของ Fed (FOMC) ได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลง 50 basis points (bp)
สิ่งนี้ ทำให้ผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ Bitcoin ขึ้นมาเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนจับตามองในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีการไหลเข้าถึงมากถึง 284 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่สินทรัพย์อื่น ๆ เช่น Ethereum กลับตรงกันข้าม โดยมีการไหลออกเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกัน รวม 29 ล้านดอลลาร์
CoinShares ชี้ว่าการไหลออกจาก Ethereum อาจเกิดจากการขายออกจาก Grayscale Ethereum Trust (ETHE) และการไหลเข้าไม่เพียงพอจาก Exchange-Traded Funds (ETFs) ที่เพิ่งออกใหม่
ทว่าผลิตภัณฑ์ Solana เองก็ยังมีการไหลเข้าต่อเนื่อง แม้จะมีมูลค่าค่อนข้างน้อยเพียงแค่ 3.2 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
การลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed ในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงวิกฤต COVID-19 โดย CoinShares ชี้ว่าการลดอัตราดอกเบี้ยช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในตลาดคริปโต ส่งผลทำให้มูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) เพิ่มขึ้น 9% และปริมาณการซื้อขายรวมในผลิตภัณฑ์การลงทุนเพิ่มขึ้นเป็น 9.5 พันล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม บางนักวิเคราะห์ได้เตือนว่าการลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงเศรษฐกิจถดถอยอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อตลาดคริปโต
โดยหนึ่งในนั้นคือ Arthur Hayes ผู้ก่อตั้งร่วมของ BitMEX ที่คาดการณ์ว่าตลาดจะพังทลายทันทีหลังจากที่ Fed ปรับลดอัตราดอกเบี้ย และวิพากษ์วิจารณ์ธนาคารกลางของสหรัฐฯ ที่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยท่ามกลางการออกดอลลาร์สหรัฐที่เพิ่มขึ้น และการใช้จ่ายภาครัฐที่เพิ่มขึ้น
ที่มา: Cointelegraph