เมื่อวันที่ 25 กันยายน บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการชำระเงินอย่าง PayPal ได้ประกาศว่า บัญชีธุรกิจ PayPal สามารถใช้ซื้อ ขาย และเทรดสกุลเงินดิจิทัล ได้โดยตรงจากบัญชี PayPal แล้ว ซึ่งฟังก์ชันใหม่นี้จะพร้อมเปิดให้บริการทั่วสหรัฐอเมริกา ยกเว้นนักเทรดในนิวยอร์ก
Jose Fernandez da Ponte รองประธานอาวุโสด้านบล็อกเชน สกุลเงินคริปโต และ สกุลเงินดิจิทัล (digital currency) ของ PayPal กล่าวถึงฟีเจอร์ใหม่นี้ว่า
“เจ้าของธุรกิจต่างแสดงความต้องการให้ผู้บริโภค สามารถใช้สกุลเงินดิจิทัลได้เพิ่มมากขึ้น เราตื่นเต้นที่จะตอบสนองความต้องการนั้น ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาสามารถใช้งานสกุลเงินดิจิทัลได้อย่างง่ายดาย”
ผู้ประกอบการที่ใช้บริการนี้ ยังมีทางเลือกในการถอนสินทรัพย์ดิจิตอลของตน ไปยังกระเป๋าเงินภายนอก หรือใช้รูปแบบการเก็บรักษาด้วยกระเป๋าเงิน Cold wallet เพื่อเพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
PayPal กำลังเข้าร่วมตลาด stablecoin
ในเดือนสิงหาคม 2023 PayPal ได้เปิดตัว Stablecoin อย่าง PYUSD ซึ่งเป็น Stablecoin ของ PayPal-United States Dollar ที่ออกโดย Paxos และมีหลักทรัพย์ค้ำประกันเต็มจำนวน ซึ่งหมายความว่า Stablecoin นี้ได้รับการหนุนหลังด้วยเงินฝากดอลลาร์สหรัฐ และสินทรัพย์เทียบเท่าเงินสดระยะสั้นเป็นหลักประกัน ซึ่ง PYUSD สามารถแลกคืนได้เต็มจำนวนในอัตราส่วน 1:1 ด้วยดอลลาร์สหรัฐ
ต่อมาบริษัท PayPal ได้ขยาย PYUSD ไปยังเครือข่าย Solana โดยกล่าวว่า Solana มีค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมที่ต่ำกว่า โดย PayPal หวังว่า ต้นทุนที่ลดลงเหล่านี้จะช่วยส่งเสริมการใช้ PYUSD สำหรับการซื้อเล็กๆ น้อยๆ เช่น กาแฟหรืออาหารกลางวันที่ร้านอาหาร
การทำธุรกรรมบน Solana มีค่าใช้จ่ายต่ำเพียง 0.0025 ดอลลาร์ แต่การทำธุรกรรมบน Ethereum อาจมีค่าใช้จ่ายสูงถึงสองหลัก โดยเฉพาะในช่วงที่เครือข่ายติดขัด
นอกจากนี้ PayPal ยังประกาศว่า PYUSD บน Solana จะมีฟีเจอร์ “ธุรกรรมที่เป็นความลับ” ซึ่งเป็นวิธีการปกปิดจำนวนเงินที่ชำระต่อสาธารณะ แต่ยังคงให้ธุรกรรมนั้นสามารถมองเห็นได้ เพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามกฎระเบียบ
ล่าสุด PYUSD มีมูลค่าตลาดเติบโตถึง 1 พันล้านดอลลาร์ แต่ยังคงตามหลัง Tether ( USDT )และสกุลเงินดิจิทัลที่ผูกกับดอลลาร์ของ Circle (USDC) โดยในเดือนสิงหาคม 2024 Tether มีมูลค่าตลาดสูงถึง 1.18 แสนล้านดอลลาร์ ในขณะที่ Circle มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์
ที่มา : cointelegraph