ดูเหมือนว่าในตอนนี้ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีจะเริ่มฟื้นตัวมากขึ้น หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) ได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลง 50 จุด ทำให้เหรียญสำคัญอย่าง Bitcoin (BTC) และ Ethereum (ETH) มีราคาพุ่งขึ้นอย่างมาก
ทว่าท่ามกลางตลาดที่เริ่มกลับตัวมาเป็นขาขึ้นนี้ XRP ซึ่งเป็นเหรียญหลักของ Ripple กลับไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนักเมื่อดูจากการเคลื่อนไหวรายสัปดาห์และรายเดือน
โดยหากพิจารณาในช่วงสัปดาห์และเดือนที่ผ่านมา ราคาของ XRP เรียกได้ว่าน่าผิดหวังเป็นอย่างมาก เมื่อเปรียบเทียบกับ BTC ที่เพิ่มขึ้น 9% ตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม, BNB ที่เพิ่มขึ้นกว่า 11% และ DOGE ที่พุ่งขึ้นกว่า 21% ในขณะที่ XRP เพิ่มขึ้นเพียง 1.6% เท่านั้นในช่วงเวลาเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลังจาก Bitget, Ryan Lee ชี้ว่า XRP อาจมีโอกาสเพิ่มขึ้นถึง 30% ในเดือนตุลาคมนี้ โดยราคาของเหรียญนี้อาจขึ้นไปแตะ 0.75 ดอลลาร์ได้ หากตลาดยังคงมีแนวโน้มเชิงบวก โดยเฉพาะหากมีความคืบหน้าด้านกฎหมายที่เป็นผลดีต่อการต่อสู้ของ Ripple กับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC)
Lee อธิบายว่า ปัจจัยทางเทคนิคสนับสนุนแนวโน้มเชิงบวกนี้ มาจากการที่ราคา XRP ได้ทะลุเส้นแนวโน้มที่สำคัญแล้ว ซึ่งถือเป็นสัญญาณขาขึ้น นอกจากนี้ XRP ยังอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน, 100 วัน และ 200 วัน ซึ่งเมื่อรวมกับสัญญาณเชิงบวกจากดัชนี MACD และ RSI อาจทำให้เดือนตุลาคมนี้เป็นเดือนที่สดใสสำหรับผู้ถือ XRP
อย่างไรก็ตาม Lee เตือนว่า XRP ก็มีโอกาสร่วงลงไปที่ระดับ 0.45 ดอลลาร์ได้เช่นกัน หากการต่อสู้ทางกฎหมายของ Ripple กับ SEC มีผลในเชิงลบ โดยเฉพาะหากมีการอุทธรณ์จากทางหน่วยงาน นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังเตือนว่า การคาดการณ์การเติบโตแบบ “พาราโบลา” อาจทำให้เกิดผลตรงข้ามในราคาของ XRP
ทั้งนี้ บทความดังกล่าวเป็นเพียงแค่การเสนอข่าวเท่านั้น การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนอาจเสียเงินทั้งจำนวนได้ ดังนั้นผู้ลงทุนควรที่จะศึกษาและประเมินความเสี่ยงก่อนที่จะลงทุนในสินทรัพย์ใดๆ อยู่เสมอ
ที่มา: CryptoPotato