Benjamin Cowen นักวิเคราะห์คริปโตชื่อดัง ได้ออกคำเตือนว่า ราคา Ethereum (ETH) อาจเปลี่ยนไปในทิศทางขาลงในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ หากแนวโน้มยังซ้ำรอยเดิมอยู่
โดย Cowen ได้บอกกับผู้ติดตามบนแพลตฟอร์ม X ว่า ETH อาจกำลังซ้ำรอยรูปแบบเดิมในปี 2016 บนกราฟระยะเวลาแบบรายเดือน ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับตัวลงในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ อย่างไรก็ตามราคาเหรียญจะมีการเติบโตที่แข็งแกร่งในครึ่งแรกของปี 2025
“จากที่ ETH ขึ้นสีเขียวในเดือนกันยายน รูปแบบปี 2016 ยังคงตรงกับปัจจุบัน หากยังคงดำเนินต่อไป นั่นหมายถึงไตรมาส 4 อาจจะเป็นสีแดง แต่จะตามมาด้วยการเติบโตในครึ่งแรกของปี 2025 ไตรมาส 4 ของปี 2019 ก็เป็นสีแดงสำหรับ ETH แต่เดือนตุลาคมก็ยังมีสีเขียวเล็กน้อย แนวโน้มอาจเปลี่ยนได้ แต่ก็ควรติดตามไปจนกว่าจะมีการเบี่ยงเบน”
นอกจากนี้ Cowen ยังชี้ว่า Tether Dominance (USDT.D) อาจมีการปรับตัวต่ำกว่าเส้นแนวโน้มบนกราฟรายสัปดาห์ ซึ่งจะทำให้ Bitcoin (BTC) เริ่มการปรับตัวขึ้นอีกครั้ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้เล่นในตลาดกำลังใช้ stablecoin เพื่อสะสม BTC ในราคาถูก
เขาชี้ว่า การลดลงของเปอร์เซ็นต์ตลาดของ Tether เมื่อเทียบกับคริปโตอื่น ๆ มักมีความสัมพันธ์กับช่วงขาขึ้นของ Bitcoin
“ผมเคยโพสต์เกี่ยวกับ USDT dominance ที่แตะเส้นแนวโน้มระยะยาวในวันที่ 14 มีนาคม 2024 ซึ่งตรงกับจุดสูงสุดของ BTC เรามักจะคิดว่าครั้งนี้ต่างออกไป แต่ USDT dominance ยังคงสร้างจุดต่ำสุดที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ เส้นแนวโน้มนี้ต้องถูกทำลายก่อนที่เราจะเห็นการฟื้นตัวที่แท้จริง”
และสุดท้าย นักวิเคราะห์ยังได้เปิดเผยกราฟการวิเคราะห์แบบ logarithmic regression ซึ่งใช้ในการติดตามมูลค่าที่แท้จริงของตลาดคริปโต โดยเขาชี้ว่าตามข้อมูลในอดีต ตลาดคริปโตอาจจะไม่เกินมูลค่ายุติธรรมไปยังพื้นที่เกินมูลค่าจนกว่าจะถึงต้นปีหน้า
“ในรอบที่แล้ว เราเห็นมูลค่าตลาดคริปโตสูงเกินไปในช่วงปลายปีที่มีการ Halving แต่ในรอบก่อนหน้าไม่ใช่จนกระทั่งไตรมาสแรกหรือไตรมาสสองของปี 2017 รอบก่อนนั้นไม่ใช่จนถึงไตรมาสแรกของปี 2013 ดังนั้นเราอาจจะได้เห็นตลาดที่ไม่เกินมูลค่าจริง ๆ จนกว่าจะถึงปีหน้า และหากเป็นเช่นนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด เพราะยังคงเป็นไปตามรูปแบบที่เราเห็นในรอบที่ผ่าน ๆ มา”
อย่างไรก็ตาม บทความดังกล่าวเป็นเพียงแค่การเสนอข่าวเท่านั้น การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนอาจเสียเงินทั้งจำนวนได้ ดังนั้นผู้ลงทุนควรที่จะศึกษาและประเมินความเสี่ยงก่อนที่จะลงทุนในสินทรัพย์ใดๆ อยู่เสมอ
ที่มา: DailyHODL