เมื่อวันพุธที่ผ่านมา Gary Gensler ประธานคนปัจจุบันของ SEC ได้ขึ้นเวทีในงานอีเว้นต์ที่มหาวิทยาลัยกฎหมายแห่งนิวยอร์กที่แมนฮัตตัน เพื่อถกประเด็นและตอบคำถามถึงเรื่องคุณค่าของสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างคริปโตเคอร์เรนซี ที่ถูกสร้างขึ้นมาให้อยู่นอกการควบคุมของรัฐบาลใด ๆ
โดยตัวของ Gensler นั้นระบุว่าตัวเขาเองนั้นไม่คิดว่า Bitcoin หรือสกุลเงินคริปโตตัวอื่น ๆ จะถูกยอมรับให้เป็นช่องทางการชำระเงินที่แพร่หลาย และจะเป็นเครื่องมือการเก็บรักษามูลค่าต่อไป ซึ่งหน่วยงานของเขาอย่าง SEC จะทำหน้าอยู่ในสถานะ “เป็นกลาง” โดยสาธารณชนจะต้องเป็นคนตัดสินใจเองว่าคริปโตจะมีประโยชน์อื่นอันใด
ทั้งนี้เขาได้กล่าวขึ้นมาว่า ตัวเขาเองก็เคยสอนเรื่องต่าง ๆ ที่มหาวิทยาลัย MIT พร้อมอ้างว่าการโต้วาทีครั้งนี้สามารถย้อนกลับไปได้ถึง 3,000 ปี ในสมัยเพลโต หรือ อริสโตเติล ซึ่งประวัติศาสตร์ชี้ให้เห็นว่าอาณาจักรนับร้อยนับพันที่ผ่านมา เรามักจะมีสกุลเงินเดียวต่อหนึ่งรัฐเศรษฐกิจเท่านั้น และแม้แต่ระบบโลหะสองชนิด (เงิน,ทอง) ก็ไม่ค่อยมีกันให้เห็น
มากไปกว่านี้นเขายังได้อ้างอิงถึงกฎ Greham’s law ของศตวรรษที่ 19 ซึ่งเป็นหลักการด้านการเงินที่มีใจความว่า “เงินไม่ดีขับไล่เงินดี” และเสริมว่าโดยทั่วไปแล้วประเทศชาติต้องการสกุลเงินเพียงสกุลเดียวเท่านั้น และ Bitcoin ก็ไม่น่าจะกลายมาเป็นสกุลเงินได้เพราะมันไม่มีประโยชน์ใช้งาน
ขณะเดียวกัน Gensler ยังได้ออกมาปกป้องหน่วยงานของต้น พร้อมระบุว่าอุตสาหกรรมคริปโตนั้นเต็มไปด้วยผู้ร้ายที่จ้องเล่นงานนักลงทุน ถ้าพวกเขาไม่เข้มงวดและนำกฎระเบียบเข้ามา มันจะยิ่งทำให้อุตสาหกรรมออกนอกลู่นอกทาง และยังชี้ให้เห็นว่าในปัจจุบันเหล่าคนดังโลกคริปโตนั้นถ้าไม่ติดคุก ก็รอส่งตัวข้ามแดนเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม Gensler ไม่ได้กล่าวว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปกับทาง SEC หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่เสร็จสิ้น และเขาก็ไม่ได้ระบุว่าเขาจะทำการลาออกจากตำแหน่งหากทรัมป์เป็นฝ่ายชนะ ขณะที่ทางตัวของทรัมป์เองกลับบอกว่าจะทำการปลด Gensler ออกจากตำแหน่งหากเขาชนะการเลือกตั้ง
ที่มา : Coindesk