Kraken กระดานเทรดคริปโตเคอร์เรนซีชื่อดัง ได้สร้างความฮือฮาในวงการคริปโต เมื่อแพลตฟอร์มประกาศปิดตัวตลาดซื้อ-ขาย NFT อย่างเป็นทางการ หลังจากเปิดให้บริการมาได้เพียงแค่ 1 ปี
Kraken ส่งอีเมลแจ้งลูกค้าว่า ตลาด NFT จะทำการปิดตัวลงและเข้าสู่โหมดถอนเงินตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2024 โดยเปิดให้ลูกค้าถอนเงินได้ภายในระยะเวลา 3 เดือน ก่อนจะปิดตัวลงอย่างถาวร โดยพวกเขาอธิบายว่า การตัดสินใจนี้จะช่วยให้พวกเขาสามารถนำทรัพยากรไปพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
โฆษกของ Kraken ยืนยันการปิดให้บริการของแพลตฟอร์มดังกล่าว โดยระบุว่า
“เราตัดสินใจปิดตลาดซื้อ-ขาย NFT เพื่อให้เราสามารถเปลี่ยนเส้นทางทรัพยากรไปสู่ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ รวมถึงโปรเจกต์ที่ยังไม่เปิดเผย เพื่อให้ลูกค้าได้รับทราบเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง และทีมของเราจะสนับสนุนพวกเขาในการโอนย้าย NFT ไปยังกระเป๋าเงิน Kraken หรือกระเป๋าเงินแบบ self-custodial ที่พวกเขาเลือก”
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ Kraken ได้เปิดตัวตลาด NFT อย่างเต็มรูปแบบในเดือนมิถุนายน 2023 หลังจากผ่านการทดสอบ Beta test 2-3 เดือน ในช่วงเปิดตัว โดย Kraken มีคอลเลกชัน NFT มากกว่า 250 รายการ และไม่คิดค่าธรรมเนียมแก๊สจากผู้ซื้อหรือผู้ขายในการทำธุรกรรม
ทั้งนี้ การตัดสินใจดังกล่าวของ Kraken เกิดขึ้นในขณะที่ตลาด NFT กำลังเผชิญกับแนวโน้มขาลงในปี 2024 ตามรายงานของ DappRadar ปริมาณการซื้อขาย NFT แตะระดับต่ำสุดประจำปีที่ 471 ล้านดอลลาร์ ในเดือนสิงหาคม โดยลดลง 16% จากเดือนกรกฏาคม
นอกจากนี้กิจกรรมการซื้อขาย NFT นั้นมีการลดลงอย่างมาก สังเกตได้จาก ในไตรมาสแรกของปี 2024 นั้น มียอดการซื้อขายเพียง 3,900 ล้านดอลลาร์ เมื่อเปรียบเทียบกับ 12,600 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2022
นอกเหนือจากภาวะตลาดตกต่ำแล้ว แพลตฟอร์มของ Kraken ยังต้องเผชิญกับการแข่งขันจากทั้งแพลตฟอร์ม OpenSea และ Blur ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มผู้ให้บริการซื้อ-ขาย NFT เช่นเดียวกัน
มากไปกว่านั้น อีกหนึ่งแรงสั่นสะเทือนในวงการ NFT ได้เกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2024 ที่ผ่านมา เมื่อสำนักงาน ก.ล.ต.สหรัฐฯ (SEC) ส่งจดหมายเตือน (Wells Notice) ไปยัง OpenSea ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนถึงการฟ้องร้องที่อาจจะเกิดขึ้นตามมา เกี่ยวกับเรื่องโทเคน NFT
Kraken เองก็ไม่พ้นสายตาจับจ้องของ SEC โดยก่อนหน้านี้บริษัทเคยตกเป็นเป้าหมายมาแล้ว และในขณะนี้ยังคงเผชิญกระบวนการทางกฎหมาย โดยประเด็นหลักคือการพิจารณาว่า เหรียญคริปโตที่ซื้อขายบนแพลตฟอร์มของ Kraken นั้นเข้าข่ายเป็น “สัญญาการลงทุน” (Investment Contract) ตามการทดสอบ Howey หรือไม่
อย่างไรก็ตาม การปิดตัวตลาด NFT ของ Kraken ในครั้งนี้ ยังไม่มีการยืนยันว่าเกี่ยวข้องกับปัญหาทางกฎหมายจากหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ หรือไม่ แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ ความไม่ชัดเจนด้านกฎระเบียบเกี่ยวกับโทเคนประเภทนี้ ยังคงเป็นอุปสรรคใหญ่ที่วงการคริปโตต้องเผชิญ และอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่กำหนดอนาคตของ NFT
ที่มา:cointelegraph