รายงานล่าสุดจาก CoinShares ได้ออกมาเปิดเผยว่า กองทุน ETF ของ Ethereum (ETH) กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มจะแซงหน้า Bitcoin (BTC) ETF ได้ในปี 2025
ตามข้อมูล CoinShares ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา กองทุน ETF ของ Ethereum มีเงินไหลเข้าสุทธิ (net inflows) ต่อเนื่องกัน 7 สัปดาห์ โดยสัปดาห์ที่ 26 พฤศจิกายนสร้างสถิติใหม่ด้วยมูลค่าถึง 2.2 พันล้านดอลลาร์
แนวโน้มนี้ทำให้ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าทิศทางที่ดีนี้จะต่อเนื่องถึงปี 2025 โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากราคาสปอตของ ETH ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งและหน่วยงานกำกับดูแลอนุญาตให้ ETF สร้างผลตอบแทนจากการ Staking ได้
ซึ่ง Nate Geraci ประธานของ The ETF Store ระบุในโพสต์บนแพลตฟอร์ม X เมื่อวันที่ 20 ธันวาคมว่า “เงินทุนไหลเข้าสุทธิของ ETF Ethereum ขณะนี้ใกล้เคียงกับ ETF ทองคำ และคาดว่าจะเร่งตัวขึ้นจากนี้ไป”
ในขณะเดียวกัน รายงานจาก Bybit ในเดือนธันวาคมชี้ให้เห็นว่า ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา Ethereum มีผลตอบแทนดีกว่า Bitcoin ทั้งในตลาดสปอตและตลาดอนุพันธ์ โดยขณะที่ ETF ของ Bitcoin มีการไหลออกสุทธิสูงสุดในประวัติการณ์เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม
โดย Matt Hougan หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Bitwise กล่าวว่าการเติบโตของกิจกรรมบนเครือข่าย Ethereum โดยเฉพาะจากการใช้งานปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีแนวโน้มช่วยเสริมประสิทธิภาพของ Ethereum โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับ Solana ที่ได้รับความนิยมมากกว่าในปี 2024
Hougan ยังระบุอีกว่า Ethereum และ Base ซึ่งเป็น Layer-2 scaling network ของ Ethereum คือพื้นที่ที่ AI agents หลายตัวกำลังดำเนินการ
นอกจากนี้ บริษัทจัดการสินทรัพย์อย่าง VanEck ก็ได้คาดการณ์ว่าราคาสปอตของ Ethereum อาจพุ่งขึ้นไปสูงถึง 6,000 ดอลลาร์ได้ภายในไตรมาสที่ 4 ปี 2025 และอาจสร้างรายได้สุทธิจากเครือข่ายถึง 66 พันล้านดอลลาร์ต่อปีภายในปี 2030 ซึ่งจะดันราคาสปอตของ Ethereum ให้แตะ 22,000 ดอลลาร์
ในขณะที่ Bernstein Research รายงานว่า Ethereum ETF ในสหรัฐอเมริกาอาจรวมผลตอบแทนจากการ Staking เข้าไปด้วยในอนาคต โดยปัจจุบันผู้ที่ Stake Ethereum จะได้รับผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีประมาณ 3.35% ตามข้อมูลจาก Staking Rewards
อย่างไรก็ตาม บทความดังกล่าวเป็นเพียงแค่การเสนอข่าวเท่านั้น การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนอาจเสียเงินทั้งจำนวนได้ ดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาและประเมินความเสี่ยงก่อนที่จะลงทุนในสินทรัพย์ใดๆ อยู่เสมอ
ที่มา: Cointelegraph