<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

3 เหรียญคริปโตที่กลับมาฟื้นคืนชีพในปี 2024 และอาจไปต่อในปี 2025

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ปี 2024 ถือเป็นปีแห่งการฟื้นตัวของตลาดคริปโตอย่างแท้จริง ด้วยกระแสการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ความหวังในกฎระเบียบที่เอื้อต่อคริปโต และความสนใจจากนักลงทุนสถาบันที่เพิ่มขึ้น ทำให้มูลค่าตลาดคริปโตโดยรวมเพิ่มขึ้นจาก 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ ในเดือนมกราคม สู่ 3.9 ล้านล้านดอลลาร์ ในช่วงกลางเดือนธันวาคม ซึ่งนำโดยการพุ่งขึ้นของราคา Bitcoin ที่ทำกำไร YTD ได้ถึง 160%

การฟื้นตัวครั้งใหญ่ยังส่งแรงผลักดันเชิงบวกไปยังเหรียญอื่น ๆ โดยเฉพาะ Altcoin บางตัวที่เหมือนได้เกิดใหม่ หลังจากที่เหรียญเคยซบเซา หรือถูกมองว่า ขาดศักยภาพ

ในบทความนี้ ทางสยามบล็อกเชนพามาเจาะลึก 3 เหรียญคริปโตที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในปี 2024 และนักวิเคราะห์มองว่ายังมีโอกาสไปได้อีกในปี 2025

Dogecoin กลับมาเฉิดฉายอีกครั้งในปี 2024

ที่มาภาพ : intelligencer

Dogecoin เหรียญมีมในตำนาน กลับมาครั้งยิ่งใหญ่ในปี 2024 โดยราคาพุ่งขึ้นกว่า 350% จากระดับต่ำสุดในเดือนมกราคมที่ 0.081 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นไปแตะ 0.466 ดอลลาร์ การพุ่งขึ้นครั้งนี้ได้รับแรงหนุนจากปัจจัยทั้งทางการเมือง , ปัจจัยทางเทคนิค และวัฒนธรรมที่ผลักดันให้ Dogecoin กลับมาอยู่ในกระแสความสนใจของนักลงทุน

ประสิทธิภาพของ Dogecoin ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ที่มา: CoinGecko

ซึ่งผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2024 จากชัยชนะของ Donald Trump ที่มีนโยบายสนับสนุนคริปโตอย่างชัดเจน ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยพลิกโฉม Dogecoin พร้อมกับส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบที่เป็นมิตรมากขึ้น

อีกทั้ง Donald Trump ยังดึงตัว Elon Musk มาร่วมงานในฐานะประธานร่วมของหน่วยงานรัฐบาลที่ตั้งขึ้นใหม่ชื่อว่า “Department of Government Efficiency” (DOGE) ซึ่งได้รับความสนใจจากสื่อ และสร้างความหวังในหมู่นักลงทุน

ประธานาธิบดีไม่หยุดพูดถึง DOGE ที่มา: Donald Trump

นอกจากนี้ ยังมีแรงสนับสนุนที่มาจาก Elon Musk ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนความเชื่อมั่นต่อ Dogecoin ด้วยการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีข่าวลือเกี่ยวกับการนำ DOGE มาใช้เป็นระบบชำระเงินบนแพลตฟอร์ม X ของ Elon Musk ซึ่งกระตุ้นให้นักลงทุนและนักวิเคราะห์คาดการณ์ถึงกำไรในอนาคต

ซึ่งจากการวิเคราะห์ทางเทคนิคก็ชี้ให้เห็นถึงโมเมนตัมเชิงบวก โดยมีสัญญาณสำคัญอย่าง “Golden Cross” ซึ่งเป็นจุดตัดของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะยาว 2 เส้น ที่แสดงถึงแนวโน้มขาขึ้นอย่างชัดเจน

นักวิเคราะห์ Mikybull ได้เปรียบเทียบรูปแบบปัจจุบัน กับรอบขาขึ้นครั้งก่อนของ Dogecoin ที่ราคาเคยพุ่งขึ้นถึง 7,000% ในขณะที่ Javon Marks นักเทรดคริปโตชื่อดัง คาดว่า DOGE อาจพุ่งแตะ 3 ดอลลาร์ หรือมากกว่านั้น หากโมเมนตัมยังคงอยู่

Ripple พา XRP พุ่ง 330%

ที่มาภาพ : cryptoticker

XRP ของ Ripple กลายเป็นเหรียญที่สร้างเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ในปี 2024 ด้วยการพุ่งขึ้นกว่า 350% นับตั้งแต่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา การปรับตัวครั้งนี้ส่งให้ XRP แซงหน้า Solana และ Tether ขึ้นมาเป็นคริปโตอันดับ 3 ของโลกในแง่มูลค่าตลาด

รายชื่อสกุลเงินดิจิทัล 5 อันดับแรกตามมูลค่าตลาดรวม แหล่งที่มา: CoinGecko

ซึ่งปัจจัยที่ผลักดันราคา XRP มาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นความหวังในกฎระเบียบ, การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ และโมเมนตัมทางเทคนิคที่แข็งแกร่ง ทำให้ XRP กลายเป็นสินทรัพย์ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในตลาด

ชัยชนะบางส่วนในคดีเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งผู้พิพากษา Analisa Torres ตัดสินว่า XRP ไม่ใช่หลักทรัพย์ แต่สามารถจัดเป็นหลักทรัพย์ได้ ในการขายให้สถาบัน เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ช่วย Ripple และอุตสาหกรรมคริปโตโดยรวม

และด้วยนโยบายสนับสนุนนวัตกรรมของ Donald Trump และการเสนอชื่อ Paul Atkins ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนคริปโต ให้มาเป็นประธาน SEC คนใหม่ ทำให้มีความหวังว่า Ripple อาจจบคดีที่ยืดเยื้อมายาวนานในปี 2025

นอกจากนี้ Ripple ได้เปิดตัว RLUSD Stablecoin ที่รองรับด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเน้นความโปร่งใส และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ซึ่งเปิดตัวบนแพลตฟอร์มอย่าง MoonPay, Uphold และ Bitso ในวันที่ 18 ธันวาคม การเคลื่อนไหวครั้งนี้ช่วยให้ Ripple เจาะตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลที่กำลังเติบโต และเสริมความแข็งแกร่งในด้านการชำระเงินข้ามพรมแดน

โดยนักเทรดชื่อดัง DonAlt ที่เคยวิเคราะห์การพุ่งของ XRP ในเดือนพฤศจิกายน คาดว่าหาก XRP สามารถทะลุแนวต้านที่ 2.60 ดอลลาร์ได้ อาจจุดประกายแรงซื้อใหม่และดันราคาเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว

Hedera กลับเข้าสู่ Top 25 และยืนหยัดในฐานะผู้ทรงพลังด้าน DeFi อีกครั้ง

ที่มาภาพ : coingape

Hedera Hashgraph ซึ่งเคยถูกมองว่า เป็นม้ามืดในโลกคริปโต กลับมาโดดเด่นอีกครั้งในปี 2024 ด้วยการเติบโตอย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะ ราคาที่พุ่งขึ้นกว่า 800% ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม และยังคงแสดงให้เห็นถึงศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

หนึ่งในพัฒนาการที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือ ความเป็นไปได้ของการเปิดตัว HBAR ETF โดย Valour Funds ได้ยื่น เอกสารเสนอขายหลักทรัพย์ สำหรับผลิตภัณฑ์ที่รองรับการ Staking แบบจับต้องได้กับตลาดหลักทรัพย์ Euronext ในยุโรป

ในขณะเดียวกัน Canary Capital ก็ยื่นเอกสารสำหรับกองทุน HBAR ETF ในสหรัฐฯ ซึ่งทำให้นักลงทุนจับตาดูการพัฒนากฎระเบียบอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะหลังการเลือกตั้ง

ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนโยบายคริปโตในยุคของรัฐบาลใหม่ อาจช่วยผลักดันการยอมรับ HBAR ในระดับสถาบันให้เพิ่มขึ้นอย่างมาก

การเติบโตของ Hedera ในตลาด DeFi ถือเป็นปัจจัยสำคัญ โดยมูลค่ารวมที่ล็อกไว้ (TVL) ในระบบนิเวศเพิ่มขึ้นจาก 53 ล้านดอลลาร์ในเดือนมกราคม ไปถึงเกือบ 200 ล้านดอลลาร์ในเดือนธันวาคม การเพิ่มขึ้นอย่างมากนี้ได้รับแรงหนุนจากแพลตฟอร์ม DeFi ชื่อดัง เช่น Stader, SaucerSwap และ Bonzo Finance

การเติบโตของ Hedera DeFi TVL ระหว่างไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ปี 2024 แหล่งที่มา: DefiLlama

คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

ที่มา : cointelegraph