Michael Saylor ได้ออกมาแสดงความยินดีกับสิ่งที่เขาเรียกว่า “ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาแห่งคริปโต (The Crypto Renaissance)” หลังจากที่ Donald Trump ลงนามในคำสั่งบริหารสนับสนุนคริปโต โดยคำสั่งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในด้านกฎระเบียบคริปโตของสหรัฐอเมริกา และยังสะท้อนการเปลี่ยนมุมมองของ Saylor ที่เคยเป็นผู้สนับสนุน Bitcoin (BTC) แบบสุดโต่ง
อย่างไรก็ตาม โพสต์ล่าสุดของเขากลับสร้างความขัดแย้งในกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “Bitcoin Maximalists” ซึ่งเชื่อว่า Bitcoin เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลเพียงหนึ่งเดียวที่มีค่าและถูกต้องตามหลักการ กลุ่มนี้มักเรียกสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ ว่า “Shitcoin” หรือหลอกลวง
ตัวอย่างเช่น บัญชี X ที่ชื่อว่า Pledditor ซึ่งเป็นผู้สนับสนุน Bitcoin Maximalist ได้โพสต์ถามว่า “เราจะสามารถนำ Saylor คนเดิมกลับมาได้หรือไม่?” พร้อมแนบภาพโพสต์เก่าของ Michael Saylor ในปี 2022 ที่ระบุว่า “คนที่ใช้คำว่า Crypto และ Bitcoin สลับกันไปมา แสดงว่าไม่เข้าใจทั้งสองอย่างเลย”
ในขณะที่ปัจจุบันบริษัท MicroStrategy ซึ่งเป็นบริษัทของ Saylor เป็นหนึ่งในผู้สะสม Bitcoin รายใหญ่ที่สุดในโลก โดยตามรายงานของ Finbold การซื้อครั้งล่าสุดถือเป็นการซื้อ BTC ต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 11 และมีมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 29 พันล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Saylor แสดงท่าทีเปลี่ยนใจเกี่ยวกับการยึดมั่นใน Bitcoin เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2024 เขายอมรับในบทสัมภาษณ์กับ Altcoin Daily ว่าเขาเคยมอง Ethereum (ETH) ผิดไป และแนะนำแนวคิด “Crypto Renaissance” ซึ่งเขาเชื่อว่าการปรับปรุงกฎระเบียบจะส่งผลดีต่อ Ethereum และคริปโตอื่น ๆ
สิ่งที่ Saylor คาดการณ์ไว้ในบทสัมภาษณ์ดูเหมือนจะเกิดขึ้นจริง เมื่อ Donald Trump ลงนามในคำสั่งบริหารที่สร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อคริปโตมากขึ้นในสหรัฐฯ ทั้งนี้ หนึ่งปีก่อนในเดือนมกราคม 2024 Franklin Templeton ก็เคยส่งสัญญาณเปลี่ยนแนวทางจากการโฟกัสที่ BTC เพียงอย่างเดียว ไปสู่การสนับสนุน Ethereum, Solana (SOL) และคริปโตอื่น ๆ
และในปัจจุบัน ธุรกิจ นักพัฒนา นักลงทุน และผู้ใช้งานคริปโตต่างตั้งตารอ “ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาแห่งคริปโต” ซึ่งอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับผู้สนับสนุน Bitcoin Maximalist รายอื่น ๆ และเป็นตัวเร่งให้เกิด “Altseason” ที่ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าจะเพิ่มความต้องการสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ นอกจาก BTC
ที่มา: Finbold