นักวิเคราะห์จาก JPMorgan คาดการณ์ว่า Ethereum (ETH) จะยังคงต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากบล็อกเชนคู่แข่ง แม้ว่าตลาดคริปโตโดยรวมจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงการเลือกตั้งสหรัฐฯ แต่ราคาเหรียญกลับเติบโตต่ำกว่าทั้ง Bitcoin และเหรียญ Altcoins อื่น ๆ นอกจากนี้ ส่วนแบ่งตลาดของ Ethereum ยังลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี ซึ่งสะท้อนถึงแรงกดดันจากเครือข่ายอื่น ๆ
นักวิเคราะห์ของ JPMorgan นำโดย Nikolaos Panigirtzoglou ระบุว่าสาเหตุหลักที่ทำให้ Ethereum สูญเสียส่วนแบ่งตลาดมีสองประเด็นสำคัญ ได้แก่ การแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากเครือข่ายอื่น เช่น Solana และเครือข่าย Layer 2 ที่มีค่าธรรมเนียมต่ำกว่าและรองรับการขยายตัวของเครือข่ายได้ดีกว่า
นอกจากนี้ Ethereum ยังขาดการกำหนดบทบาทที่ชัดเจน ต่างจาก Bitcoin ที่ได้รับการยอมรับในฐานะสินทรัพย์เก็บมูลค่า แม้ว่า Dencun Upgrade ของ Ethereum จะมีการเพิ่ม blobs เพื่อลดค่าธรรมเนียมและเพิ่มประสิทธิภาพ แต่กิจกรรมบนเครือข่ายกลับย้ายไปยัง Layer 2 มากขึ้น ซึ่งอาจทำให้เครือข่ายหลักอ่อนแอลง
และการแข่งขันในตลาดที่รุนแรงยังทำให้แอปพลิเคชันกระจายศูนย์ (DApps) ชั้นนำ ย้ายไปใช้เครือข่ายเฉพาะของตัวเองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน เช่น Uniswap ที่กำลังเตรียมย้ายไปใช้ Unichain รวมถึง dYdX และ Hyperliquid ที่เลือกใช้เครือข่ายของตัวเอง โดยเฉพาะ Uniswap ซึ่งเป็นหนึ่งในแอปที่ใช้ Ethereum Gas มากที่สุด ซึ่งหากย้ายออกไป อาจทำให้รายได้จากค่าธรรมเนียมลดลง และเสี่ยงต่อการที่ Ethereum จะเข้าสู่ภาวะเงินเฟ้อ เนื่องจากมีการเผาเหรียญลดลง
แม้จะเผชิญแรงกดดัน แต่ Ethereum ยังคงเป็นผู้นำในตลาด Stablecoins, DeFi และ Tokenization อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่าความสามารถในการรักษาตำแหน่งผู้นำของ Ethereum ในอนาคตยังต้องจับตาดู
และเพื่อกระตุ้นการใช้งานในภาคสถาบัน Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum และ Ethereum Foundation ได้ลงทุนใน Etherealize สตาร์ทอัพที่ก่อตั้งโดยอดีตเทรดเดอร์จาก Wall Street ซึ่งมุ่งเน้นให้บริการด้าน Tokenization และพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้ Ethereum ใช้งานง่ายขึ้นสำหรับสถาบันการเงิน
แม้ว่า Ethereum จะมีโอกาสเติบโตในตลาดการเงินแบบดั้งเดิมผ่าน Tokenization แต่ JPMorgan เชื่อว่าการแข่งขันจากเครือข่ายอื่นจะยังคงรุนแรงต่อไปในอนาคตอันใกล้
ที่มา: TheBlock