<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ซีอีโอ Tether เปิดใจ! หลังบริษัทกำไรทะลุ $13 พันล้าน พร้อมเดิมพันครั้งใหญ่ในเอลซัลวาดอร์

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ประเทศเอลซัลวาดอร์กำลังกลายเป็นศูนย์กลางแห่งใหม่ของวงการคริปโตเคอเรนซี และหนึ่งในผู้เล่นหลักที่เข้ามามีบทบาทคือ Tether บริษัทผู้ออกเหรียญ Stablecoin รายใหญ่ที่สุดของโลก 

โดยล่าสุด Tether ประกาศทำกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 13.7 พันล้านดอลลาร์ ต่อปี พร้อมเปิดเผยแผนย้ายสำนักงานใหญ่ไปยังเอลซัลวาดอร์ ซึ่งเคยสร้างชื่อด้วยการเป็นประเทศแรกที่รับรอง Bitcoin เป็นเงินที่ถูกกฎหมาย

Paolo Ardoino CEO ของ Tether กล่าวถึงโอกาสทางธุรกิจที่กำลังเติบโตในประเทศนี้ หลังจากรัฐบาลของ Nayib Bukele ประกาศทำให้การชำระเงินด้วย Bitcoin เป็นทางเลือกแทนที่จะบังคับใช้ตามเดิม ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เปิดโอกาสให้ USDT มีบทบาทสำคัญมากขึ้นในเศรษฐกิจที่ใช้เงินดอลลาร์เป็นหลักอยู่แล้ว

“ผมไม่เคยมีประสบการณ์ที่ดีกับนักการเมือง แต่ที่เอลซัลวาดอร์ คุณจะเห็นว่าประธานาธิบดี Bukele จริงจังกับเรื่องนี้ เขาพิสูจน์ให้เห็นว่าหากนักการเมืองใส่ใจประเทศจริง ๆ พวกเขาสามารถเปลี่ยนแปลงประเทศได้อย่างมหาศาล”

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รัฐบาล Bukele ได้รับเสียงชื่นชมจากการกวาดล้างอาชญากรรม ทำให้อัตราการฆาตกรรมในประเทศลดลงกว่า 97% และทำให้เอลซัลวาดอร์กลายเป็นหนึ่งในประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในภูมิภาคอเมริกา เมื่อประกอบกับการเปิดกว้างด้านนวัตกรรมการเงิน Tether มองว่าเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่แข็งแกร่ง

Stablecoin จะเป็นหัวใจของระบบการเงินใหม่?

การเปิดตัวกระเป๋าเงินดิจิทัล Chivo Wallet ในปี 2021 โดยรัฐบาลเอลซัลวาดอร์พยายามผลักดันให้ประชาชนใช้ Bitcoin แต่กลับไม่ได้รับความนิยมเท่าที่คาดไว้ ส่งผลให้ USDT ซึ่งมีความเสถียรจากการอ้างอิงกับเงินดอลลาร์เริ่มกลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจกว่า Ardoino เห็นว่าการทำให้ Bitcoin เป็นตัวเลือกแทนการบังคับใช้อาจเป็นแนวทางที่ถูกต้องตั้งแต่แรก

“ผมรู้ว่ามีบางคนในชุมชน Bitcoin ที่ไม่พอใจกับเรื่องนี้ แต่ผมคิดว่าการทำให้เป็นทางเลือกตั้งแต่ต้นน่าจะเป็นแนวทางที่เหมาะสมที่สุด เพราะมันช่วยให้ประเทศได้ทดลอง Bitcoin และยังเปิดโอกาสให้ Stablecoin อย่าง Tether มีบทบาทในระบบเศรษฐกิจของที่นี่”

นอกจากการขยายบทบาทในเอลซัลวาดอร์แล้ว Tether ยังมีการลงทุนในเทคโนโลยีต่าง ๆ ตั้งแต่แพลตฟอร์มวิดีโอ Rumble, บริษัทโครงสร้างพื้นฐาน AI อย่าง Northern Data, และแม้กระทั่งเทคโนโลยีสมองกล Blackrock Neurotech รวมมูลค่าการลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแนวทางของ Tether ที่ไม่ได้เป็นเพียงบริษัทคริปโต แต่กำลังสร้างเครือข่ายทางการเงินและเทคโนโลยีระดับโลก

อนาคตของ Tether ในโลก Stablecoin

แม้จะมีการแข่งขันจาก USDC ของ Circle และ RLUSD ของ Ripple แต่ Ardoino เชื่อว่า Tether ยังคงครองความได้เปรียบด้วยการยึดแนวคิดและปรัชญาเดียวกับ Bitcoin

“ถ้าคุณดูว่าชาว Bitcoin พูดถึงพวกเขาอย่างไร และพูดถึงเราอย่างไร คุณจะเข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงอยู่ที่นี่กับเรา”

โดยปัจจุบัน Tether ถือครองเงินสำรองกว่า 118 พันล้านดอลลาร์ ในรูปของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐและสินทรัพย์สภาพคล่อง ซึ่งเป็นสัดส่วนที่มั่นคงเมื่อเทียบกับขนาดของตลาด Stablecoin ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

Tether จะเปลี่ยนโลกการเงินได้หรือไม่?

Ardoino มองว่า Tether กำลังสร้างระบบการเงินที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับผู้คนทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศที่ขาดโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินแบบดั้งเดิม

“เราไม่ได้เป็นเพียงบริษัทเทคโนโลยีหรือบริษัทการเงิน แต่เราเป็นทั้งสองอย่าง เรากำลังสร้างระบบที่ช่วยให้ทุกคนสามารถเข้าถึงดอลลาร์ดิจิทัล และสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับเสรีภาพในรูปแบบต่าง ๆ”

ในขณะที่ตลาด Stablecoin ยังคงเผชิญแรงกดดันจากกฎระเบียบและการแข่งขัน Tether กำลังเดินหน้าสร้างอาณาจักรของตัวเองทั้งในด้านการเงินและเทคโนโลยี ซึ่งอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับโลกคริปโตในอนาคต

ที่มา: TheStreet