<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

‘บิตคอยน์เนอร์’ รุ่นใหญ่ ! เสนอให้ย้อนกลับธุรกรรมบนเชน Ethereum หลังเกิดเหตุ Bybit ถูกแฮ็ก

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Samson Mow หนึ่งในผู้มีอิทธิพลของ Bitcoin ได้เสนอแนวคิดที่คาดว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ หลังจากที่เกิดเหตุการณ์โจรกรรมครั้งใหญ่บนกระดานเทรด Bybit โดยมูลค่าความเสียหายถูกระบุไว้ที่ 1.4 พันล้านดอลลาร์ และมีรายงานว่าแฮ็กเกอร์เป็นชาวเกาหลีเหนือ

Mow ได้โพสต์ข้อความบน X โดยชี้ให้เห็นว่า Ethereum ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม Smart Contract ชั้นนำ ควรมีการทำ hard fork เพื่อย้อนกลับธุรกรรม และคืนเงินที่ถูกขโมยไปให้กับ Bybit รวมถึงเป็นการขัดขวางไม่ให้ ‘รัฐบาลเกาหลีเหนือ’ นำสินทรัพย์ที่ถูกขโมยไปใช้ในการสนับสนุนโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของตน

Mow แสดงความเห็นอย่างชัดเจนในเรื่องนี้ว่า “ผมสนับสนุนการย้อนกลับเชน Ethereum (อีกครั้ง) เพื่อให้ ETH ที่ถูกขโมยไป กลับคืนสู่ Bybit และเพื่อป้องกันไม่ให้รัฐบาลเกาหลีเหนือใช้เงินเหล่านั้นในการสนับสนุนโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของพวกเขา” 

ความคิดเห็นนี้สะท้อนให้เห็นถึง ความมุ่งมั่นที่จะหามาตรการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการละเมิดความปลอดภัยในระบบสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งการย้อนกลับบนบล็อกเชนเป็นกระบวนการที่ช่วยคืนสถานะของธุรกรรมที่เคยได้รับการยืนยันแล้วกลับไปในช่วงก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์ผิดปกติ 

ในกรณีของ Ethereum การย้อนกลับธุรกรรมดังกล่าว จะส่งผลให้เกิดการ Hard Fork ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับเหตุการณ์แฮ็ก Ethereum DAO ในปี 2016

นอกจากนี้ Mow ยังมีการหยิบยกข้อเสนออีกข้อหนึ่งขึ้นมาว่า เชนที่ได้รับการย้อนกลับธุรกรรม หรือ เชนที่มีการ Hard Fork ควรใช้สัญลักษณ์เหรียญว่า “ETH” ในขณะที่เชนปัจจุบันอาจเปลี่ยนชื่อเป็น “ETHNK” แทน

อย่างไรก็ตาม Mow ได้เตือนนักลงทุนให้งดเว้นการซื้อขาย Ethereum (ETH) จนกว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะได้รับการแก้ไขอย่างสมบูรณ์ 

ในขณะที่รายงาน Ethereum มีการซื้อขายในราคา $2,794 เพิ่มขึ้น 1.19% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ตามข้อมูลจาก CoinMarketCap

ที่มา:benzinga