ก่อนหน้านี้ Bybit เพิ่งออกมาบอกว่าได้เติมเต็มเงินสำรองของ Ethereum กลับคืนมาจนครบแล้ว หลังโดนแฮ็กหนักสุดในประวัติศาสตร์วงการคริปโต มูลค่าความเสียหายพุ่งทะลุ 1.5 พันล้านดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ก่อน
ในขณะที่ Ben Zhou ซีอีโอของ Bybit โพสต์บน X ย้ำชัดเลยว่า ถึงแม้จะโดนหนักขนาดนี้ แต่สถานะการเงินของบริษัทก็ยังแน่นปึ้ก เงินลูกค้าปลอดภัยหายห่วง ถอนเงินได้ตามปกติแน่นอน

ในการเต็มเติมเงินสำรองครั้งนี้ Bybit ได้เพิ่มเงินกลับเข้าสู่ระบบเกือบ 447,000 ETH (คิดเป็นมูลค่าราว 1.5 พันล้านดอลลาร์)
โดย Bybit สามารถระดมทุนฉุกเฉินจนได้เงินคืนมาประมาณ 447,000 ETH จากบริษัทชื่อดังในวงการ เช่น Galaxy Digital, FalconX และ Wintermute โดยหลังจากนั้น บริษัทได้ให้ Hacken บริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์ เข้ามาตรวจสอบเงินสำรองและยืนยันว่า Bybit ได้กู้คืนทุนสำรองเรียบร้อยแล้ว ซึ่งสินทรัพย์สำคัญต่าง ๆ เช่น bitcoin, ether, solana, tether และ USDC ต่างมีมูลค่ามากกว่าจำนวนเงินที่ต้องสำรองไว้ครบ 100% ขึ้นไปแทบทุกเหรียญ
แต่ล่าสุดดันมีข้อมูลหลุดออกมาว่า Bybit แอบไปกู้ Bitcoin กับ USDT มาโปะเงินสำรองเอาไว้ก่อน โดยจากข้อมูลของ CryptoQuant.com พบว่าหลังโดนแฮ็กครั้งใหญ่ ปริมาณสำรอง ETH ของ Bybit ฟื้นกลับมาอยู่ที่ประมาณ 874 ล้านดอลลาร์ จากก่อนหน้าโดนแฮ็กที่เคยมีสูงถึง 1.1 พันล้านดอลลาร์ ทำให้หลายคนเริ่มสงสัยกันหนักว่า การเติมเงินสำรองครั้งนี้อาจไม่โปร่งใสเหมือนที่ประกาศไว้ก่อนหน้า
จากข้อมูลจะเห็นได้ว่า การสำรอง BTC กลับลดลงอย่างมากจาก 7 พันล้านดอลลาร์ เหลือเพียง 4.7 พันล้านดอลลาร์ (ลดลง 32%) ขณะที่การสำรอง USDT ก็ร่วงลงมากเช่นกัน จากเดิม 3.1 พันล้านดอลลาร์ เหลือเพียง 1.6 พันล้านดอลลาร์ (ลดลง 48%)

นักวิเคราะห์มองว่า แม้การเติม ETH เข้ามาครบจำนวนจะดูเหมือนเป็นสัญญาณที่ดีในระยะสั้น แต่การที่ต้องกู้ Bitcoin และ USDT ไปค้ำเพื่อโปะ ETH กลับเข้าระบบนั้น แสดงให้เห็นว่าปัญหาด้านสภาพคล่องของ Bybit อาจยังไม่จบลงง่ายๆ และอาจมีแรงกดดันด้านการเงินต่อเนื่องตามมาอีก
ในสถานการณ์เช่นนี้ สิ่งสำคัญที่ Bybit ต้องเร่งทำ คือเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใสเกี่ยวกับสัดส่วนสินทรัพย์ที่นำมาค้ำ รวมถึงแผนการจัดการหนี้ระยะยาว เพราะหากเกิดภาวะผันผวนของราคา Bitcoin หรือ USDT อย่างหนักในตลาด อาจทำให้ Reserve ของแพลตฟอร์มเผชิญความเสี่ยงเพิ่มขึ้นไปอีก
ดังนั้น ผู้ใช้งานและนักลงทุนควรจับตาความเคลื่อนไหวของ Bybit อย่างใกล้ชิดต่อไป เพราะประเด็นนี้อาจส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์มและตลาดคริปโตโดยรวมได้ในระยะยาว