Ki Young Ju ซีอีโอของ CryptoQuant ออกมาเตือนว่า สหรัฐฯ กำลังใช้คริปโทเป็นเครื่องมือทางการเมือง เพื่อผลประโยชน์ของชาติ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมในระยะยาว
Ki Young Ju ได้โพสต์ข้อความลงบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ระบุว่า ตอนนี้แนวทางของรัฐบาลทรัมป์คือ การผลักดันกฎระเบียบที่เอื้อประโยชน์ต่อสหรัฐฯ โดยไม่สนใจว่าจะมีกรอบกำกับดูแลที่เหมาะสมหรือไม่
Ki Young Ju อธิบายว่า ตั้งแต่โดนัลด์ ทรัมป์ กลับมาดำรงตำแหน่ง นโยบายคริปโทของสหรัฐฯ ได้เปลี่ยนไปในทิศทางที่ว่า “ถ้ามันเป็นประโยชน์ต่อสหรัฐฯ ก็ถือว่าไม่ผิดกฎหมาย” นี่คือเหตุผลที่ตลาดคริปโทในตอนนี้ ดูเหมือนจะถูกปล่อยปละละเลยมากขึ้นโดยไม่มีข้อบังคับที่ชัดเจนในการป้องกันพฤติกรรมฉ้อโกง หรือการกระทำที่อาจเป็นอันตรายต่ออุตสาหกรรมในระยะยาว
สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนมากก็คือ การปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลทรัมป์ ช่วยเสริมสร้างผลประโยชน์ให้สหรัฐฯ พร้อมชี้ว่า แม้แต่การออกเหรียญมีม Trump ก็สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางนี้
อย่างไรก็ตาม Ki Young Ju วิพากษ์วิจารณ์ว่า การเลือกสนับสนุนสินทรัพย์คริปโทเพียงเพราะมันสอดคล้องกับผลประโยชน์ของสหรัฐฯ เป็นเรื่องที่อันตราย เพราะสิ่งที่เป็นผลดีต่อสหรัฐฯ อาจเป็นผลเสียต่อประเทศอื่นๆ ได้
สำหรับ Bitcoin และ Ethereum ซึ่งถูกมองว่า เป็นโปรโตคอลที่เป็นกลางที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด อาจจะเผชิญความเสี่ยงจากรัฐบาลสหรัฐฯ มากขึ้น เพราะทั้งสองสินทรัพย์ไม่ได้ถูกออกแบบมา เพื่อให้ผลประโยชน์ของประเทศใดประเทศหนึ่งโดยเฉพาะ
Ki Young Ju โพสต์ข้อความระบุว่า “จากโพสต์ล่าสุดของทรัมป์ ดูเหมือนว่าตอนนี้ Bitcoin และ Ethereum กำลังถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่ ไม่ใช่เพื่อน แต่ก็ไม่ใช่ศัตรู” โดยอ้างอิงการที่ทรัมป์ประกาศเปิดตัว Crypto Strategic Reserve และในตอนแรกได้เอ่ยถึง XRP, SOL และ ADA ก่อน จะมาเพิ่ม BTC และ ETH เข้าไปในภายหลัง
ซึ่ง Ki Young Ju ตีความว่า นี่อาจเป็นการส่งสัญญาณว่า ทรัมป์ต้องการให้ Bitcoin และ Ethereum แสดงให้เห็นถึง คุณค่าทางยุทธศาสตร์ สำหรับสหรัฐฯ
Ki Young Ju กล่าวว่า “ฉันสามารถตีความโพสต์ของเขาว่าเป็นแบบนี้ได้ไหม? ‘BTC และ ETH จงพิสูจน์ตัวเองให้ฉันและสหรัฐฯ เห็น เพราะฉันเพิ่งปิดดีลกับ XRP, SOL และ ADA ไปแล้ว’”
อย่างไรก็ตาม มีบางคนที่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ โดยมีผู้ใช้รายหนึ่งให้ความเห็นว่า ทรัมป์อาจไม่ได้พูดถึง Bitcoin และ Ethereum ในตอนแรก เพราะเขาคิดว่า ทุกคนรู้อยู่แล้วว่า มันเป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองของสหรัฐฯ โดยอัตโนมัติ
ที่มา : cryptopolitan