บทความนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์เหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่เท่านั้น ทางผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด คริปโตเคอร์เรนซี และ โทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
ดูเหมือนว่า BTC Bull Token ($BTCBULL) เหรียญมีมที่มาแรงที่สุดแห่งปี 2025 จะประสบความสำเร็จอีกครั้ง หลังสามารถระดมทุน ICO ได้ถึง 3.25 ล้านดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนต่างจับตาการประชุมสุดยอดด้านคริปโตที่ทำเนียบขาว ซึ่งจะจัดขึ้นในวันศุกร์นี้
โดยเหรียญ $BTCBULL ใช้เวลาไม่ถึง 1 เดือนในการระดมทุนทะลุ 3 ล้านดอลลาร์ เมื่อราคา Bitcoin เริ่มฟื้นตัว การจัดสรรเหรียญพิเศษนี้ถือเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการรับ Bitcoin ฟรี ขณะนี้ Bitcoin กลับมายืนเหนือ 91,000 ดอลลาร์หลังจากร่วงลงไปแตะ 79,041 ดอลลาร์ คาดการณ์ว่าราคาจะยังคงขยับขึ้นต่อไปก่อนการประชุม
ซึ่งทั้งหมดนี้ ได้ผมมาจากการประชุมสุดยอดครั้งนี้มีแนวโน้มที่จะกำหนดการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงสุดสัปดาห์ โดยนักวิเคราะห์มองว่ามีโอกาสที่ราคาจะพุ่งทะลุ 100,000 ดอลลาร์ และอาจทดสอบระดับสูงสุดตลอดกาลของ BTC อีกครั้ง
“การประชุมสุดยอดครั้งนี้อาจเป็นสัญญาณว่ารัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณาสร้างคลังสำรอง BTC จำนวน 1 ล้านหน่วย ซึ่งหากเป็นจริงจะเป็นแรงหนุนสำคัญให้ Bitcoin พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง”
ขณะเดียวกัน นักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่มั่นคงสามารถนำเหรียญ $BTCBULL ไปสเตกกิ้งเพื่อรับผลตอบแทน 132% ตลอด 12 เดือน โดยไม่ต้องกังวลว่าราคา Bitcoin ในระยะสั้นจะเป็นอย่างไร
“การที่รัฐบาลสหรัฐฯ ซื้อ Bitcoin ถือเป็นสัญญาณขาขึ้นที่สำคัญ และยังมีข่าวลือว่าฝ่ายนโยบายอาจพิจารณายกเลิกภาษีผลตอบแทนจากการขายสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งจะเป็นแรงจูงใจมหาศาลให้ตลาดคริปโตเติบโต”
David Sacks ผู้เชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์และการเข้ารหัสของรัฐบาลทรัมป์ ได้โพสต์ข้อความ X เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยลิงก์ไปยังข่าวประชาสัมพันธ์ที่ระบุว่า การประชุมครั้งนี้จะมีผู้ก่อตั้ง ซีอีโอ และนักลงทุนจากอุตสาหกรรมเข้าร่วม พร้อมด้วยสมาชิกคณะทำงานด้านสินทรัพย์ดิจิทัลของประธานาธิบดี
ในขณะที่Michael Saylor ซึ่งจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดครั้งนี้ มองว่า ร่างกฎหมาย Lummis ซึ่งเสนอโดย Cynthia Lummis วุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกัน อาจเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องการสะสม Bitcoin เพิ่มเติม
“ปัจจุบันรัฐบาลสหรัฐฯ ถือครอง BTC ประมาณ 200,000 หน่วย หากต้องการสะสมให้ครบ 1 ล้านหน่วย อาจต้องซื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่องในช่วง 4 ปีข้างหน้า”
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าโพสต์ของประธานาธิบดีทรัมป์ใน Truth Social เกี่ยวกับกลยุทธ์การสำรองสกุลเงินดิจิทัลเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาจะส่งผลให้ราคาพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วและหายไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมอุตสาหกรรมนี้
แต่ไม่ว่านักลงทุนจะตัดสินใจอย่างไร เหล่ากระทิงที่กำลังเข้ามา และผู้เข้าร่วมตลาด รวมถึงผู้ที่ยังมองเข้ามาอย่างไม่แน่ใจ อาจต้องการตรวจสอบสถานการณ์และพัฒนากลยุทธ์เพื่อคว้าโอกาสขาขึ้น นั่นคือสิ่งที่ BTC Bull Token เข้ามาในช่วงสภาวะตลาดเช่นนี้
นอกจากนี้ Cathie Wood จาก Ark Invest ก็ได้ออกมาคาดการณ์ว่า Bitcoin อาจมีมูลค่าสูงถึง 1.5 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 โดยอ้างถึงการยอมรับจากนักลงทุนสถาบัน บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และรัฐบาลประเทศต่างๆ ว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันมูลค่าของ Bitcoin
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนรายย่อยก็ไม่ควรถูกมองข้าม Joe และ Jill ซึ่งเป็นตัวแทนของนักลงทุนทั่วไป อาจมีบทบาทสำคัญในกระแสขาขึ้นนี้ ซึ่งย้อนกลับไปที่การประชุมสุดยอดด้านคริปโตที่ทำเนียบขาว ที่อาจก่อให้เกิดการประกาศสำคัญเพื่อดึงดูดนักลงทุนรายย่อย
การจัดตั้งกองทุนสำรองคริปโตเชิงกลยุทธ์เป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่มาตรการที่มีผลโดยตรงต่อผู้บริโภค เช่น การลดหย่อนภาษี อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยขยายการยอมรับคริปโตในวงกว้าง
“อย่าลืมว่า ทุกๆ การปรับขึ้นของราคา Bitcoin ที่ 50,000 ดอลลาร์ จะมีการแจก Bitcoin จริงให้กับผู้ถือเหรียญ $BTCBULL เช่นกัน”
โดยในตอนนี้ นักลงทุนสามารถซื้อ BTC Bull Token ผ่าน ETH, USDT หรือบัตรธนาคารได้ที่เว็บไซต์ BTC Bull Token โดยสามารถเก็บเหรียญไว้ในกระเป๋าเงินคริปโตบนมือถือแบบมัลติเชนเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดอย่าง Best Wallet ซึ่งเป็นกระเป๋าเงินคริปโตแบบมัลติเชน และรับ BTC ฟรีโดยอัตโนมัติ โดยสามารถดาวน์โหลดแอป Best Wallet ได้จาก Google Play หรือ Apple App Store
ติดตามข่าวสาร BTC Bull Token ทั้งหมดโดยเข้าร่วมชุมชนบน X และ Telegram
สามารถเข้าร่วม BTC Bull Token ได้แล้ววันนี้
<code>บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์</code>