<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ธนาคารกลางรัสเซียเตรียมเปิดไฟเขียว! นักลงทุนรายใหญ่คุณสมบัติถึง อาจซื้อคริปโตได้

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ธนาคารกลางรัสเซียกำลังพิจารณา เปิดให้กลุ่มนักลงทุนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม สามารถซื้อคริปโตได้ ภายใต้กรอบกฎหมายทดลองที่ออกแบบมา เพื่อเพิ่มความโปร่งใสในตลาดและลดความเสี่ยงของสินทรัพย์ดิจิทัล

ตามแถลงการณ์ที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของธนาคาร เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ธนาคารกลางรัสเซียได้ส่งข้อเสนอด้านกฎระเบียบเกี่ยวกับการลงทุนในคริปโตไปยังรัฐบาล ซึ่งเป็นแนวทางการพัฒนา ภายใต้คำแนะนำของ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน โดยกรอบกฎหมายนี้จะอนุญาตให้นักลงทุนบางกลุ่ม สามารถซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้

รัฐบาลรัสเซียจะจัดตั้ง “กรอบกฎหมายทดลองพิเศษ” (EPR) เป็นระยะเวลา 3 ปี เพื่อเป็นพื้นที่ทดสอบด้านกฎระเบียบเกี่ยวกับคริปโต และตรวจสอบผลกระทบของนโยบายนี้ โดยทางการจะใช้ช่วงเวลานี้ ในการกำกับดูแลและประเมินความเสี่ยงของตลาด

นักลงทุนที่มีสิทธิ์เข้าร่วมในโครงการนี้ ต้องเป็นบุคคลที่มีหลักทรัพย์และเงินฝากมูลค่ารวมกันมากกว่า 100 ล้านรูเบิล (ประมาณ 1.1 พันล้านบาท) หรือมีรายได้ต่อปีมากกว่า 50 ล้านรูเบิล (ประมาณ 550 ล้านบาท) รวมถึง นักลงทุนสถาบันและองค์กรทางการเงินที่ได้รับอนุญาต

สำหรับสถาบันการเงินที่ต้องการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ธนาคารกลางรัสเซียจะกำหนดข้อกำหนดเฉพาะ ตามระดับความเสี่ยงของการลงทุน

นอกจากการอนุญาตให้กลุ่มนักลงทุนที่ผ่านเกณฑ์ซื้อขายคริปโตโดยตรงแล้ว รัสเซียยังเปิดให้ลงทุนผ่าน ตราสารอนุพันธ์ที่ชำระเป็นเงินสด (cash-settled derivatives), หลักทรัพย์ และสินทรัพย์การเงินดิจิทัล (DFA) ที่อิงมูลค่ากับคริปโต โดยไม่ต้องถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลจริงๆ

แม้ว่า กฎระเบียบใหม่นี้ จะเพิ่มโอกาสให้กับนักลงทุนระดับสูง แต่ธนาคารกลางรัสเซียยังคงยืนยันว่า คริปโตยังไม่สามารถใช้เป็นสกุลเงินที่ถูกต้องตามกฎหมายในประเทศได้

ช่วงที่ผ่านมา รัสเซียได้ออกกฎหมายอนุญาตให้ สามารถใช้คริปโตเพื่อการชำระเงินระหว่างประเทศได้ เพื่อเลี่ยงการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจจากชาติตะวันตก ทำให้ธุรกิจรัสเซีย สามารถทำธุรกรรมข้ามพรมแดนผ่านสินทรัพย์ดิจิทัลได้ 

แม้จะอนุญาตให้ใช้คริปโตในระดับสากล แต่รัฐบาลรัสเซียยังคงห้ามใช้คริปโตในการทำธุรกรรมภายในประเทศ

ถือเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวสำคัญของรัสเซีย ในการเปิดรับสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะเมื่อประเทศกำลังเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ และยุโรป ซึ่งทำให้ต้องหาทางเลือกใหม่ๆ สำหรับระบบการเงินของตัวเอง 

ที่มา : cryptobriefing