<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นักลงทุนคริปโตเตรียมลุ้น Fed ลดอัตราดอกเบี้ย หลังตัวเลข Core CPI สหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าที่คาด !

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อคืนวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้ประกาศตัวเลขดัชนี Core CPI ซึ่งเป็นตัวชี้วัดภาวะเงินเฟ้อออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยอยู่ที่ 3.1% จากเดิมที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 3.2% ส่งผลให้ทั้งตลาดหุ้นและตลาดคริปโตปรับตัวฟื้นขึ้น ท่ามกลางความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจเปลี่ยนท่าทีนโยบาย

อ้างอิงข้อมูลของ Matt Mena นักวิจัยคริปโต 21Shares เปิดเผยว่า การที่ภาวะเงินเฟ้อมีการชะลอตัวเช่นนี้ จะยิ่งเพิ่มความเป็นไปได้ที่ Fed จะลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เพื่อดึงสภาพคล่องกลับเข้ามายังตลาดสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง 

ทั้งนี้ความเป็นไปได้ที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยขยับขึ้นมาทันที หลังรายงานตัวเลขดังกล่าว โดยพุ่งขึ้นเป็น 31.4% ที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพฤษภาคม ซึ่งมากกว่าความเป็นไปได้ที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือนที่ผ่านมาถึง 3 เท่าตัว หรือ 57.2% ในเดือนมิถุนายน

ขณะเดียวกัน ทางฝั่งของความเป็นไปได้ที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ พุ่งขึ้น 5 เท่าตัว และหยุดที่ 32.5% ส่วนความเป็นไปได้ที่จะลดอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ ทะยานจาก 1% สู่ 21%

Anthony Pompliano เชื่อมั่นว่า ปธน.ทรัมป์ กำลังพยายามบีบให้เฟดต้องลดอัตราดอกเบี้ย ผ่านการทำให้ตลาดและโลกการเงินวุ่นวาย มิเช่นนั้นตลาดหมีจะกลับมาเยือนนักลงทุนอีกครั้ง ในขณะที่ Kobeissi Letter เสริมว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จำเป็นต้องรีไฟแนนซ์หนี้สินประมาณ 9.2 ล้านล้านดอลลาร์ก่อนที่จะครบกำหนดในปี 2025

หากไม่สามารถรีไฟแนนซ์หนี้สินนี้ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง จะทำให้หนี้สินของประเทศเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าอยู่ที่กว่า 36 ล้านล้านดอลลาร์ และทำให้การจ่ายดอกเบี้ยหนี้สินพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก ดังนั้นทรัมป์จึงจำเป็นต้องรีบทำให้เฟดลดอัตราดอกเบี้ย โดยแลกมากับความเสียหายระยะสั้น

อย่างไรก็ตาม แม้ดัชนีเงินเฟ้อล่าสุดจะออกมาดีกว่าที่คาด แต่ราคา Bitcoin กลับมีความผันผวนรุนแรงและทำราคาดิ่งลงแตะ $80,000 ก่อนที่จะฟื้นกลับมาที่ $83,500 ในช่วงเช้าของวันที่ 13 ซึ่งเป็นระดับราคาที่เพิ่มขึ้น 0.56% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ที่มา : Cointelegraph