โลกของ DeFi (Decentralized Finance) ที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและเต็มไปด้วยความเสี่ยง อาจกลายเป็นช่องทางใหม่ในการช่วยให้เหล่าผู้ถือครอง Bitcoin ระยะยาว (HODL) ทำกำไรได้มากขึ้น
รายงานล่าสุดจาก Binance ระบุว่า Bitcoin DeFi เป็น “โอกาสที่ยังไม่ได้ถูกใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่” และอาจช่วย ปลดล็อกสภาพคล่องของ BTC มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ที่ไม่ได้ถูกใช้งานในระบบ พร้อมกับเพิ่มประสิทธิภาพด้านการใช้เงินทุนของ Bitcoin ได้อีกด้วย
ปัจจุบัน มีเพียง 0.79% ของ Bitcoin ทั้งหมด ที่ถูกนำมาใช้ใน DeFi ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น้อยมากเมื่อเทียบกับศักยภาพของสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในโลก
Bitcoin ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อใช้เป็นเครือข่ายการชำระเงินที่สามารถส่งเงินไปที่ไหนก็ได้บนโลกแบบไร้พรมแดน แต่ปัจจุบัน Bitcoin ถูกซื้อขายในฐานะ “ทองคำดิจิทัล” ที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ โดยเฉพาะหลังจากที่ กองทุน Spot Bitcoin ETF ได้รับอนุมัติในสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว ส่งผลให้นักลงทุนจำนวนมาก เลือกที่จะถือครอง Bitcoin ระยะยาว (HODL) โดยคาดหวังผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นในอนาคต
อย่างไรก็ตาม Binance เชื่อว่า หากสามารถนำ Bitcoin ไปใช้งานใน DeFi ได้มากขึ้น อาจ ช่วยให้ผู้ถือครอง BTC สามารถ สร้างผลตอบแทนเพิ่มเติม จากสินทรัพย์ของตนเอง แทนที่จะปล่อยให้ Bitcoin อยู่เฉย ๆ
Binance เชื่อว่า การนำ Bitcoin มาใช้ใน DeFi จะช่วยให้นักลงทุนสามารถทำเงินเพิ่มขึ้นได้มากกว่าเดิม แม้ว่าโครงสร้างพื้นฐานของ Bitcoin จะไม่ได้ถูกออกแบบมา เพื่อรองรับแอปพลิเคชันทางการเงินที่ซับซ้อน แต่ DeFi ช่วยให้ผู้ถือครอง BTC มีตัวเลือกมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้เป็น หลักประกันในการกู้ยืม การปล่อยกู้เพื่อรับดอกเบี้ย หรือการลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีโครงสร้างซับซ้อน
แนวคิดนี้ยิ่งได้รับแรงหนุนมากขึ้น หลังจากที่ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ได้ยกเลิกกฎ SAB ฉบับที่ 121 ภายใต้การบริหารของรัฐบาล Trump ซึ่งเป็นมิตรกับวงการคริปโต ทำให้การพัฒนาแอปพลิเคชัน DeFi ที่รองรับ Bitcoin มีแนวโน้มเติบโตมากขึ้น
DeFi เป็นระบบการเงินไร้ตัวกลางที่ช่วยให้ผู้คนสามารถ กู้ยืม, ปล่อยกู้, หรือรับผลตอบแทนจากดอกเบี้ย ผ่านเทคโนโลยี บล็อกเชน ซึ่งส่วนใหญ่แอปพลิเคชัน DeFi มักถูกสร้างบนเครือข่าย Ethereum ที่เป็นบล็อกเชนอันดับสองของโลก แม้ว่าแนวคิดการนำ Bitcoin มาใช้ใน DeFi จะมีมานานแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก อย่างไรก็ตาม Binance มองว่า นี่คือโอกาสที่ยังไม่ได้ถูกใช้อย่างเต็มที่ และอาจเป็นก้าวสำคัญของ Bitcoin ในโลก DeFi
ตอนนี้ Bitcoin กำลังถูกจับตามองว่า อาจจะกลายเป็นสินทรัพย์ที่ “มีประสิทธิภาพมากขึ้น” คล้ายกับ ทองคำและพันธบัตรรัฐบาล ที่ถูกใช้งานในตลาดการเงินแบบดั้งเดิม
ซึ่ง Binance มองว่า เมื่อเครือข่าย Layer-2 ของ Bitcoin พัฒนามากขึ้น นักลงทุนก็จะสามารถนำ Bitcoin ของตัวเองไปสร้างผลตอบแทนได้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม โลกของ DeFi ยังคงเป็นพื้นที่ทดลอง ที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงจากการถูกแฮ็กและการหลอกลวง ทำให้นักลงทุนหลายคนต้องสูญเสียเงินจำนวนมหาศาลในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
รายงานของ Binance ระบุว่า นักลงทุน Bitcoin ส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญกับความปลอดภัย, การถือครองสินทรัพย์ด้วยตัวเอง (self-custody) และการรักษามูลค่าในระยะยาว มากกว่าการนำ BTC ไปใช้เพื่อการลงทุนแบบเชิงรุก ซึ่งเป็นจุดที่โปรโตคอล BTCFi หรือ Bitcoin DeFi ต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ถือครอง BTC
หากโปรเจกต์ DeFi ที่พัฒนาขึ้นบน Bitcoin ประสบความสำเร็จ ก็มีโอกาสสูงที่เราจะได้เห็น DeFi บน Bitcoin เติบโตขึ้น และกลายเป็นอีกหนึ่งภาคส่วนที่ต้องจับตามอง เพราะจะใช้ ความแข็งแกร่งและความปลอดภัยของเครือข่าย Bitcoin มาเป็นจุดขายหลัก ซึ่งอาจเปลี่ยนเกมของวงการคริปโตไปเลยก็ได้
ที่มา : decrypt