ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้อาจไม่ใช่เวลาที่สดใสนักสำหรับ Bitcoin (BTC) หลังจากราคาทะยานขึ้นแตะระดับเกือบ 110,000 ดอลลาร์ในช่วงกลางเดือนมกราคม ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ไม่นานหลังจากนั้น ราคาก็เริ่มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จนหลุดระดับ 77,000 ดอลลาร์ในเดือนมีนาคม
ปัจจุบัน Bitcoin ซื้อขายอยู่ที่ราว 84,000 ดอลลาร์ ตามข้อมูลจาก CoinGecko ซึ่งแม้จะฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังห่างจากจุดสูงสุดพอสมควร
ราคา BTC ที่มา: CoinGecko
แม้ว่า Bitcoin (BTC) จะเผชิญกับแรงขายและความผันผวนอย่างต่อเนื่องในไตรมาสแรกของปี 2025 แต่ก็ยังมีหลายสัญญาณเชิงบวกที่สร้างความหวังให้กับนักลงทุนว่า ไตรมาสที่สองนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนของตลาดขาลง สู่การฟื้นตัวครั้งใหม่อีกครั้ง
หนึ่งในสัญญาณที่น่าจับตาคือ สถิติย้อนหลังจาก Coinglass ซึ่งระบุว่า ในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา Bitcoin ทำผลงานได้ดีในไตรมาสที่ 2 ถึง 7 ครั้ง โดยเฉพาะเมื่อปี 2024 เป็นปีที่เกิดเหตุการณ์ Halving ซึ่งตามประวัติแล้ว ราคาของ Bitcoin มักจะเริ่มพุ่งขึ้นในปีถัดมา เช่นเดียวกับปี 2017 ที่ราคาทะยานขึ้นกว่า 120% ในไตรมาสที่ 2 แม้จะมีข้อยกเว้นบางปีอย่าง 2013 และ 2021 ก็ตาม
อีกปัจจัยสำคัญคือ ความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่แม้ในขณะนี้จะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่เสียงลือในตลาดเริ่มดังขึ้น โดยเว็บไซต์ Polymarket ประเมินว่า มีโอกาสถึง 53% ที่ Fed จะลดดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน ซึ่งการลดดอกเบี้ยมักดึงดูดเงินทุนเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงอย่าง Bitcoin เนื่องจากต้นทุนการกู้ยืมต่ำลง และนักลงทุนต้องการผลตอบแทนที่มากขึ้น
ด้านภูมิรัฐศาสตร์ก็มีบทบาทไม่น้อย โดยเฉพาะความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน หากมีข้อตกลงสันติภาพเกิดขึ้น ก็อาจช่วยคลายความกังวลในตลาด และเปิดทางให้สินทรัพย์ดิจิทัลกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง โดยเฉพาะเมื่อมีรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้พูดคุยกับผู้นำของทั้งสองประเทศแล้ว แม้ยังไม่มีผลลัพธ์ชัดเจน แต่ก็ถือเป็นก้าวแรกของความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น
ท้ายที่สุด อีกหนึ่งสัญญาณบวกคือ การเคลื่อนไหวของกลุ่มเจ้ามือ (Whales) โดยข้อมูลล่าสุดระบุว่า จำนวนกระเป๋าเงินที่ถือครอง Bitcoin ในช่วง 1,000–10,000 BTC เพิ่มขึ้นแตะระดับ 1,993 กระเป๋า ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว การสะสมของเจ้ามือในระดับนี้มักบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นในทิศทางขาขึ้นของราคาในอนาคต แม้ต้องระวังไว้ด้วยว่า หากเจ้ามือเหล่านี้เลือกเทขายพร้อมกัน ตลาดก็อาจผันผวนรุนแรงได้เช่นกัน
ด้วยสัญญาณบวกทั้งหมดนี้ ทำให้ไตรมาสที่สองของปี 2025 กลายเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนควรจับตาอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นนักเก็งกำไรรายย่อย หรือสถาบันขนาดใหญ่ เพราะหากทุกปัจจัยประจวบเหมาะ นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของรอบขาขึ้นครั้งใหม่ของ Bitcoin ที่ใครก็ไม่อยากพลาด
ที่มา : cryptopotato