Charles Hoskinson ผู้ก่อตั้ง Cardano ออกมา วิพากษ์วิจารณ์เหรียญมีม แบบตรงไปตรงมาว่า เหรียญมีม (memecoins) เหมือนกับดาราดังชั่วคราวที่มีชื่อเสียงแค่ช่วงสั้น ๆ แล้วก็ดับไป
Charles Hoskinson ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านช่อง YouTube “Wolf of All Streets” โดยกล่าวว่า 99% ของเหรียญมีมไม่สามารถอยู่รอดในระยะยาวได้ เพราะส่วนใหญ่ถูกสร้างมา เพียงเพื่อให้คนบางกลุ่มทำกำไรเท่านั้น ไม่ได้มีระบบนิเวศรองรับที่แข็งแรง
Charles Hoskinson อธิบายว่า เหรียญมีมมักเริ่มต้นด้วยกระแสสุดปัง แต่ถ้าไม่มีระบบนิเวศหรือแผนพัฒนาอะไรที่มั่นคง สุดท้ายคนก็จะหมดความสนใจ และมูลค่าก็หายไปในพริบตา
“นั่นคือเหตุผลว่า ทำไมเหรียญมีม 99% ถึงล้มเหลว” Charles Hoskinson กล่าว
Charles Hoskinson ยังตำหนิเรื่องการกระจายเหรียญที่มักเอื้อประโยชน์ให้กับทีมผู้ก่อตั้งหรือคนวงใน โดยจะปั่นราคาเหรียญให้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เทขายเหรียญ เหลือแค่ผู้ถือเหรียญที่เข้าไปทีหลัง ซึ่งติดดอย โดยไม่ได้มีแรงจูงใจใด ๆ ในการสร้างโปรเจกต์ให้เติบโตอย่างยั่งยืน
Charles Hoskinson มองว่า เหรียญมีมเป็นตัวบั่นทอนการเติบโตของวงการคริปโตโดยรวม เพราะดึงสภาพคล่องออกไป โดยไม่สร้างมูลค่าอะไรใหม่ เปรียบเหมือนกับ การตักน้ำจากอีกฝั่งของอ่างไปสู่อีกฝั่งหนึ่ง และสุดท้ายก็ไหลหายไปพร้อมกับท่อที่รั่ว ไม่ใช่การเพิ่มสภาพคล่อง แต่เป็นน้ำที่หายไปเรื่อย ๆ
อย่างไรก็ตาม Charles Hoskinson ยังเน้นย้ำว่า สิ่งที่จะสร้างมูลค่าให้วงการคริปโตในระยะยาว คือ การนำ Bitcoin มาใช้ใน DeFi, การนำสินทรัพย์ในโลกจริงเข้าสู่ดิจิทัล และ stablecoin แบบอัลกอริทึม ซึ่งต่างจากเหรียญมีมที่ไม่มีแผนหรือเป้าหมายที่ชัดเจน
ข้อมูลจาก Dune Analytics ระบุว่า ปริมาณการใช้งาน เหรียญมีมเฉลี่ยต่อวัน พุ่งไปแตะ 71,000 รายการ เมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา ก่อนที่จะลดลงอย่างต่อเนื่อง จนเหลือประมาณ 9,000 รายการ ณ วันที่ 1 เมษายน

ที่มา: Dune Analytics
มูลค่าตลาดรวมของเหรียญมีมตัวท็อปบน Solana ร่วงลงไปกว่า 85% จากจุดสูงสุดของปี จากที่เคยแตะ 81.83 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเหรียญมีมอย่าง Official Trump (TRUMP), Bonk (BONK), Fartcoin (FARTCOIN), Dogwifhat (WIF) และ Pengu (PENGU) ราคาพากันร่วงยับ เพราะนักลงทุนเริ่มหมดความมั่นใจ
ทั้งหมดนี้ดูเหมือนเป็นสัญญาณว่า เหรียญมีมอาจไม่ได้ไปได้ไกลอย่างที่ใครหลายคนหวังไว้ ถ้าไม่มีอะไรยึดโยงกับความยั่งยืน
ที่มา : cryptopolitan