ใครว่าเหรียญมีมเป็นได้แค่กระแสฉาบฉวย ไร้ประโยชน์ จับต้องไม่ได้ และมีการซื้อขายตามอารมณ์นักลงทุนเท่านั้น CartelFi กำลังจะเข้ามาลบภาพจำเหล่านั้น และเปลี่ยนเม็ดเงินมหาศาลที่เคยนอนแน่นิ่งในเหรียญมีม ให้กลายเป็นขุมทรัพย์ที่สร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือครองได้อย่างน่าจับตา
CartelFi ได้จุดประกายความหวังให้กับตลาดคริปโตที่ซบเซาจากสงครามภาษีของทรัมป์ ด้วยนวัตกรรม “พูลสภาพคล่องแบบกำหนดเอง” ที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนนำเหรียญมีมมา Stake แบบ “Single-Asset” หรือการวางเดิมพันเหรียญเพียงสกุลเดียว เพื่อสร้างผลตอบแทนอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ลองเปรียบเทียบกับระบบ Staking แบบเดิม ๆ ในแพลตฟอร์ม Automated Market Makers (AMM) อย่าง Uniswap หรือ SushiSwap ที่มักบังคับให้ผู้ใช้งานต้องจับคู่สินทรัพย์ 2 สกุลในสัดส่วนที่เท่ากันเพื่อเป็นผู้ให้บริการสภาพคล่องและรับค่าธรรมเนียม แต่ CartelFi ฉีกกฎเกณฑ์นั้น เพียงแค่คุณมีเหรียญมีมในมือ ก็สามารถนำมา Stake ได้
CartelFi กำลังสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการใช้ประโยชน์จากเงินทุนในโลก DeFi และด้วยกระแสความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นมาเจาะลึกกันว่าทำไมโปรเจกต์นี้ถึงถูกจับตามองว่าอาจเป็นการระดมทุนคริปโตที่ร้อนแรงที่สุดแห่งปี 2025
CartelFi สร้างรายได้ให้กับเหรียญมีม
ปัจจุบันเรากำลังเข้าสู่ยุคสมัยของ DeFi 2.0 และ CartelFi กำลังนำเสนอนวัตกรรม Liquidity Pool ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์นักลงทุนเหรียญมีมโดยเฉพาะ จากเดิมที่นักลงทุนต้องเลือกระหว่างการถือสินทรัพย์มั่นคงแต่ผลตอบแทนน้อย หรือเสี่ยงโชคกับเหรียญมีมที่อาจพุ่งทะยาน แต่ก็มีความผันผวนสูง ตอนนี้ CartelFi ได้สร้างทางเลือกใหม่ ที่ให้นักลงทุนสามารถถือเหรียญมีมที่ชื่นชอบ พร้อมกับรับผลตอบแทนได้อย่างต่อเนื่อง
ผู้ใช้งานสามารถนำเหรียญมีมฝากเข้าสู่ “Vaults” ระบบจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีความปลอดภัยสูงของ CartelFi และเริ่มรับผลตอบแทน
กลไกสำคัญที่อยู่เบื้องหลังผลตอบแทนของการ Stake คือ โมเดลพูลสภาพคล่องที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ ซึ่งไม่ปล่อยให้เงินทุนมหาศาลในเหรียญมีม ที่ปัจจุบันมีมูลค่ารวมกันกว่า 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต้องนอนแน่นิ่งอยู่อย่างเปล่าประโยชน์ แต่ถูกนำมาเพิ่มสภาพคล่องในตลาด ช่วยให้การซื้อขายใน DeFi เป็นไปอย่างราบรื่น และผู้ฝากเหรียญยังคงได้รับรายได้แบบ Passive Income จากค่าธรรมเนียมการเทรด
สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือ นักลงทุนยังคงเป็นเจ้าของเหรียญมีมของตนเอง 100% โดยไม่ต้องขายออกไป ซึ่งนำมาสู่คำถามสำคัญที่หลายคนสงสัย นั่นคือ การระดมทุนของ CartelFi ในครั้งนี้ จะเป็นแรงผลักดันให้ราคา Shiba Inu พุ่งแตะ 1 ดอลลาร์สหรัฐได้จริงหรือไม่
CartelFi ปูทางสู่ขาขึ้นของเหรียญมีม
CartelFi กำลังเข้ามาแก้ Pain Point สำคัญของนักลงทุนเหรียญมีม นั่นคือทางเลือกระหว่างการถือเหรียญเพื่อหวังราคาพุ่ง กับการนำเหรียญไปสร้างรายได้ ตอนนี้ นักลงทุนไม่จำเป็นต้องทิ้งเหรียญมีมไว้เฉย ๆ อีกต่อไป แต่สามารถถือครองเหรียญที่ชื่นชอบ พร้อมกับสร้างกระแสเงินสดได้อย่างสม่ำเสมอ จากเดิมที่การทำกำไรจากเหรียญมีมมีเพียงวิธีเดียวคือการขาย แต่ด้วย Pool สภาพคล่องของ CartelFi นักลงทุนสามารถถือเหรียญไว้และรับผลตอบแทน APY ในระดับที่น่าสนใจ
เมื่อไม่มีแรงจูงใจในการขายเหรียญเพื่อทำกำไรในระยะสั้นอีกต่อไป นี่อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลทางอ้อมต่อราคาอย่างมหาศาล ลองจินตนาการว่า หากผู้ถือเหรียญสามารถสร้างกระแสเงินสดจากการถือครองโดยไม่ต้องขาย ราคาจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
จำนวนผู้ขายที่ลดลงถือเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อราคา และยิ่งไปกว่านั้น เมื่อผู้ใช้งานตระหนักว่า การถือเหรียญมีมสามารถสร้างรายได้จริง ก็จะยิ่งดึงดูดผู้ซื้อรายใหม่เข้ามาในตลาดมากขึ้น
กลไกการสร้างรายได้ของ Vaults ใน CartelFi กำลังยกระดับราคาเพดานของเหรียญมีมทุกสกุล และโทเคนที่อยู่บนแพลตฟอร์มนี้ อาจสร้างผลงานได้อย่างโดดเด่นเกินคาด
เป้าหมายราคา 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับ Shiba Inu ที่เคยเป็นเพียงความฝัน อาจกลายเป็นความจริงได้ เมื่อ CartelFi เปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคมนี้
CartelFi จะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในปี 2025 ได้หรือไม่ ?
CartelFi กำลังยกระดับคุณค่าของเหรียญมีมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เปลี่ยนเงินทุนจำนวนมหาศาลที่ไม่ได้ถูกใช้งาน ให้กลายเป็นสินทรัพย์ที่สร้างรายได้อย่างแท้จริง
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ถือโทเคน CARTFI ยังได้รับประโยชน์จากทุกกิจกรรมที่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์ม โดย 100% ของค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์มจะถูกนำไปซื้อคืนโทเคน CARTFI และ 50% ของโทเคนที่ซื้อคืนมานั้นจะถูกเผาทิ้ง ลองจินตนาการถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น เมื่อตลาดกลับมาคึกคัก และเหรียญมีมกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง
นี่คือการยกระดับประสิทธิภาพการใช้เงินทุน และกลไก Tokenomics แบบลดอุปทานของเหรียญเพื่อผลักดันราคา ในขณะที่ราคาโทเคน CARTFI ยังอยู่ที่ 0.029 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อโทเคน นี่อาจเป็นโอกาสในการเข้าร่วมในราคาที่ต่ำมาก ซึ่งมีโทเคนเพียงไม่กี่ตัวที่กล้าเปิดตัวด้วยกลไก Tokenomics ที่แข็งแกร่งเช่นนี้
นอกจากนี้ ด้วยกลไกการปรับขึ้นราคา 5% ทุก ๆ 3 วัน ระหว่างการระดมทุนนี้ ยังจะมอบรางวัลให้กับผู้ที่ตัดสินใจได้รวดเร็วกว่า หากคุณสนใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิวัติเหรียญมีม และต้องการสัมผัสโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากสินทรัพย์ดิจิทัลที่คุณชื่นชอบ อย่าพลาดโอกาสในการเข้าร่วมกับ CartelFi
หากสนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ CartelFi อย่างเป็นทางการ
| เช็คลิสต์ | รายละเอียด | สถานะ |
|---|---|---|
| 1. เว็บไซต์ & Whitepaper | โปรเจกต์มีเว็บไซต์ที่ดูน่าเชื่อถือ และมีเอกสาร Whitepaper ที่ระบุข้อมูลชัดเจนไม่กำกวม |  |
| 2. ความโปร่งใสของทีมงาน | ทีมพัฒนามีการเปิดเผยตัวตนชัดเจนไม่ได้ปกปิดข้อมูลแต่อย่างใด |  (ไม่ชัดเจน) |
| 3. Tokenomics | เหรียญมีการแจกแจงการปันส่วนที่สมเหตุผล และไม่มีฝ่ายใดถือครองจนมากเกินไป | |
| 4.Smart Contract | Smart contract มีความโปร่งใสและถูกตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีการใส่โค้ดแอบแฝงเพื่อโจมตีนักลงทุน | |
| 5. มีกำหนดการชัดเจน | โปรเจกต์มีการกำหนดวันสิ้นสุดการระดมทุนพรีเซล รวมถึงวันลิสต์เหรียญอย่างชัดเจน | |
| 6. ผู้ใช้สามารถถอนเงินได้ | กรณีเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดขึ้น นักลงทุนยังคงสามารถทำการถอนเงินคืนได้ | (ไม่ชัดเจน) |
| 7. คอมมูนิตี้ | โปรเจกต์มีชุมชนคอยให้การสนับสนุนจริง ไม่ได้ถูกรันด้วยบอทเพียงอย่างเดียว | |
| 8. สภาพคล่อง | โปรเจกต์มีการล็อกสภาพคล่องเพื่อระงับไม่ให้เกิดการ Rug pull ขึ้น | (ไม่ชัดเจน) |
| 9. ไม่มีสัญญาณอันตราย | โปรเจกต์ไม่มีสัญญาณอันตราย เช่น การระดมทุนจะสิ้นสุดเมื่อราคาถึงระดับ XXX เป็นต้น | |
| อ่านรายละเอียดเช็คลิสต์เพิ่มเติมได้ที่นี่ | ||
บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์คริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุน คริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ โปรดศึกษาข้อมูลให้รอบคอบและลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่ท่านยอมรับได้ ทาง Siam Blockchain รวมถึงผู้บริหารและพนักงานของบริษัท ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบในทุกกรณีหากเกิดความเสียหายจากการลงทุนของท่าน
<strong>บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์</strong>