<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Bank of America สั่งลุย ! เร่งแผนออก Stablecoin ท้าชนยักษ์ใหญ่ Tether และ Circle

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ธนาคารแห่งอเมริกา (Bank of America)  ธนาคารใหญ่อันดับสองของสหรัฐฯ กำลังเร่งเดินหน้าเข้าสู่ตลาด Stablecoin อย่างจริงจัง หวังชิงส่วนแบ่งตลาด จากสองคู่แข่งยักษ์ใหญ่อย่าง Tether และ Circle ที่ครองตลาดด้วยปริมาณธุรกรรมมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ต่อวันอยู่ในขณะนี้

Brian Moynihan ซีอีโอของ ธนาคารแห่งอเมริกา (Bank of America) ออกมาพูดตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์แล้วว่า ธนาคารแห่งอเมริกา พร้อมที่จะออก Stablecoin ทันที หากกฎหมายเปิดทาง และสภาคองเกรสของสหรัฐฯ ได้วางกรอบกฎหมายที่ชัดเจน

นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ธนาคารแห่งอเมริกา (Bank of America) ได้เริ่มเคลื่อนไหวผ่านองค์กรต่าง ๆ อย่าง American Bankers Association และ Bank Policy Institute เพื่อกดดันฝ่ายนิติบัญญัติ ให้ผลักดันกฎหมายออกมาในทางที่เอื้อประโยชน์ต่อธนาคารแบบดั้งเดิม รวมถึงจำกัดบทบาทของบริษัทเทคโนโลยี และฟินเทค ในการออก Stablecoin

ปัจจุบัน สภาคองเกรสกำลังพิจารณาร่างกฎหมาย 2 ฉบับหลัก ได้แก่ STABLE Act และ GENIUS Act มีเนื้อหาว่าด้วย การเปิดให้ บริษัทที่ไม่ใช่ธนาคาร (non-bank) สามารถออก Stablecoin ได้ หากผ่านเกณฑ์ 

อย่างไรก็ตามธนาคารแห่งอเมริกา (Bank of America) มองว่า สิ่งนี้เป็นภัยต่อระบบการเงิน โดยหากปล่อยให้บริษัทค้าปลีก อย่าง Amazon หรือ Meta  สามารถออกเหรียญเองได้ พวกเขาอาจเข้าถึงข้อมูลบัญชีธนาคารของลูกค้า และใช้ข้อมูลนั้นในการทำการตลาด หรือกำหนดราคาที่ไม่เป็นธรรม เพื่อเอาเปรียบลูกค้าได้ ซึ่งถือว่าไม่แฟร์ และไม่ควรปล่อยให้เกิดขึ้นในระบบการเงิน

ทั้งนี้แนวคิดที่จะจำกัดไม่ให้สถาบันที่ไม่ใช่ธนาคาร ออกเหรียญ Stablecoin ยังไม่ค่อยได้รับการสนับสนุนเท่าไหร่นักในสภาคองเกรส เพราะร่างกฎหมายทั้งสองฉบับ ก็ยังเปิดช่องให้สถาบันที่ไม่ใช่ธนาคารสามารถออก Stablecoin ได้อยู่ดี

ด้านคู่แข่งอย่าง Circle ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ยังคงเคลื่อนไหวในด้านนโยบาย โดยพยายามผลักดันให้เกิดกฎหมายที่สนับสนุนผู้ให้บริการที่ไม่ใช่ธนาคาร เน้นเรื่องความโปร่งใสและความปลอดภัยของผู้ใช้งานเป็นหลัก

ขณะที่ Tether ก็ไม่ยอมน้อยหน้า แม้จะมีฐานอยู่ต่างประเทศ แต่ก็เริ่มให้ความสนใจตลาดสหรัฐฯ มากขึ้น โดย Paolo Ardoino  ซีอีโอของ Tether เคยบินมาที่วอชิงตันและนิวยอร์ก เพื่อหารือเกี่ยวกับการตั้งบริษัทลูกในสหรัฐฯ ที่จะให้บริการเหรียญ USDT แก่ลูกค้ารายใหญ่โดยเฉพาะ

ปัจจุบัน Tether มี USDT หมุนเวียนอยู่ในระบบมากกว่า 145,000 ล้านดอลลาร์ ส่วน Circle มี USDC อยู่ราว 60,000 ล้านดอลลาร์ โดย Circle น่าจะได้ประโยชน์จากกฎหมายใหม่ที่จะบังคับให้มีการสำรองเงิน และตรวจสอบบัญชีอย่างเข้มงวด ซึ่งแตกต่างจาก Tether ที่อาจเจอแรงกดดันมากกว่า

ที่มา : cryptopolitan