ตอนนี้ Ethereum กำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากที่สุดตั้งแต่เปิดตัวมา โดยตัวชี้วัดหลัก ๆ ของเครือข่าย ร่วงลงไปแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายปี การใช้งานบนเลเยอร์หลัก (base layer) ก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง ค่าธรรมเนียมที่ลดลง เนื่องจากการเผาเหรียญที่น้อยลง ส่งผลให้เครือข่ายกลับเข้าสู่ภาวะเงินเฟ้ออีกครั้ง
ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 เม.ย. 2025 Vitalik Buterin ได้ออกมาเสนอแนวทางปรับโครงสร้าง Ethereum ด้วยการเปลี่ยนชุดคำสั่งพื้นฐาน (Instruction Set) จากเดิมที่เป็น Ethereum Virtual Machine (EVM) มาใช้ชุดคำสั่ง RISC-V แทน ซึ่งถือเป็นสัญญาณว่า โครงสร้างเดิมอาจเดินทางมาถึงทางตันแล้ว
ในขณะที่นักลงทุนสถาบันรายใหญ่อย่าง Galaxy Digital และ Paradigm ต่างก็เริ่มเทขาย ETH ออก โดย Galaxy เพิ่งโอน ETH จำนวน 65,600 ETH มูลค่ากว่า 105 ล้านดอลลาร์ไปยัง Binance ทำให้ยอดถือครอง ETH ของ Galaxy ลดลง จากจุดสูงสุด 98,000ETH ในเดือน ก.พ. เหลืออยู่ที่ประมาณ 68,000 ETH ในตอนนี้

Galaxy ทิ้ง Ether แต่ไม่ใช่ทั้งหมด ที่มา: Arkham
ด้าน Paradigm ก็โอนย้าย ETH จำนวนมาก ไปยัง Anchorage Digital ตั้งแต่ต้นปี สะท้อนให้เห็นว่า ความเชื่อมั่นต่อ Ethereum กำลังสั่นคลอน
โดยเมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา Paradigm ได้โอนย้าย ETH จำนวน 5,500 เหรียญ (มูลค่าราว 8.66 ล้านดอลลาร์) ไปยัง Anchorage Digital ซึ่งจากข้อมูลของนักวิเคราะห์บล็อกเชน อย่าง EmberCN ระบุว่า ตั้งแต่ต้นปี 2024 Paradigm ได้ย้าย ETH ไปยัง Anchorage Digital แล้วประมาณ 97,000 เหรียญ (มูลค่าประมาณ 301.57 ล้านดอลลาร์) และต่อมาก็ถูกส่งต่อไปยังเว็บเทรดแบบ centralized

Paradigm Capital ถือครอง ETH ประมาณ 236,000 ETH ในปี 2019 แต่ เมื่อวันที่ 23 เมษายน ถือครอง ETH จำนวน 2,873 ETH แหล่งที่มา: Arkham
แม้จะมีแรงเทขายจากฝั่งสถาบัน แต่ก็มีเจ้ามือบางราย กลับมองว่า เป็นโอกาสในการซื้อของถูก โดยแอบสะสม ETH ขณะที่ราคา ETH ลดลง ซึ่งข้อมูลล่าสุดจาก Lookonchain ในช่วงเดือนเมษายน พบว่า บางกระเป๋าเงินเพิ่งซื้อ ETH สะสมไปเกือบ 100 ล้านดอลลาร์
ขณะที่ธนาคาร Standard Chartered ก็หั่นเป้าราคา ETH ปีนี้ลง จากเดิมที่เคยตั้งไว้ถึง 10,000 ดอลลาร์ กลับมองว่า สิ้นปีราคา ETH อาจพุ่งขึ้นไปแตะ 4,000 ดอลลาร์
- ที่มา : cointelegraph
- ที่มารูปภาพ : hashdex