หลังจาก Ross Ulbricht ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ตลาดมืด Silk Road ถูกตัดสินจำคุกในปี 2013 จากการมีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมผิดกฎหมายบนแพลตฟอร์มของเขา และต้องใช้ชีวิตในเรือนจำยาวนานกว่า 11 ปี เขาได้รับการอภัยโทษและถูกปล่อยตัวในช่วงต้นปี 2025 ท่ามกลางกระแสเรียกร้องเพื่อความเป็นธรรมจากผู้สนับสนุนทั่วโลก แต่ล่าสุดกลับมีหลักฐานชิ้นใหม่ปรากฏขึ้น ซึ่งชี้ว่าผู้บริจาครายใหญ่ที่เคยให้เงินสนับสนุน Ulbricht อาจมีความเชื่อมโยงกับตลาดมืดชื่อดังอีกแห่งอย่าง AlphaBay
หลังจากได้รับอิสรภาพไม่นาน Ross Ulbricht ก็ได้รับเงินบริจาคเป็นจำนวนมหาศาลถึง 300 BTC หรือคิดเป็นมูลค่าราว 31 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไม่มีการเปิดเผยตัวตนของผู้บริจาคอย่างชัดเจน เหตุการณ์นี้กลายเป็นประเด็นที่ถูกจับตามองในวงการคริปโตฯ และก่อให้เกิดคำถามตามมามากมายว่าเงินจำนวนนี้มาจากไหน และทำไมถึงถูกส่งให้ Ulbricht ทันทีหลังพ้นโทษ
ยิ่งไปกว่านั้น นักสืบในวงการบล็อกเชนได้ทำการตรวจสอบและพบความเชื่อมโยงที่น่าสนใจระหว่างกระเป๋าเงินต้นทางของการบริจาคครั้งนี้ กับแอดเดรสบางส่วนที่เคยถูกใช้ในตลาดมืด AlphaBay ซึ่งถูกปิดตัวลงโดย FBI ในปี 2017 กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการขุดคุ้ยเครือข่ายลับที่อาจยังคงมีชีวิตอยู่ใต้ผิวเงียบของโลกดิจิทัล
บริษัทวิเคราะห์บล็อกเชนชื่อดังอย่าง Chainalysis เผยว่า พวกเขาสามารถเข้าถึงกระเป๋าคริปโทฯ ที่ส่ง Bitcoin จำนวน 300 BTC ไปยัง Ulbricht กับ AlphaBay ได้แล้ว โดยเชื่อว่าบุคคลผู้อยู่เบื้องหลังน่าจะเป็น “vendor” หรือผู้ดำเนินธุรกิจรายใหญ่ในตลาด AlphaBay ซึ่งน่าจะสะสม Bitcoin มาตั้งแต่ยุคแรก ๆ ที่แพลตฟอร์มนี้ยังเปิดให้บริการ
ด้าน Phil Larratt ผู้อำนวยการสำนักงานสืบสวนสอบสวนของ Chainalysis ให้สัมภาษณ์ว่า ดูจากจำนวน Bitcoin ที่ส่งมาแล้ว สำนักงานฯ มีเหตุผลมากพอที่จะเชื่อว่าเงินเหล่าบริจาคนั้นมาจาก AlphaBay และน่าจะเป็นคนที่เคยเป็น vendor ระดับบิ้กในยุคนั้น
ในขณะที่นักสืบบล็อกเชนอิสระชื่อดังอย่าง ZachXBT ยืนยันว่าบิทคอยน์เหล่านี้ไม่ได้มาจาก Silk Road อย่างแน่นอน พร้อมตั้งข้อสังเกตถึงพฤติกรรมที่น่าสงสัยในกระบวนการทำธุรกรรมครั้งนี้ ว่าอาจไม่ชอบมาพากล
ZachXBT ระบุว่า ผู้บริจาคใช้เทคนิคหลบเลี่ยงการตรวจสอบ เช่น การใช้บริการ Crypto mixing หลายตัวเพื่อปิดบังเส้นทางธุรกรรม และมีการทยอยแปลงเหรียญคริปโทฯ อื่น ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจาก CEX (Centralized Exchange) หรือเว็บเทรดคริปโตแบบรวมศูนย์
นอกจากนี้ ZachXBT ยังให้สัมภาษณ์ว่า “แม้การบริจาคนี้จะดูเป็นการบริจาคอย่างถูกต้อง แต่แหล่งที่มาของเงินกลับไม่ถูกต้อง รวมถึงการใช้ mixer การกระจายการฝากเงินเข้า CEX และอีกมากมาย มักใช้โดยคนที่พยายามไม่ให้หน่วยงานตรวจสอบเจอว่ามันคือเงินผิดกฎหมาย”
ในอดีต Chainalysis เคยมีบทบาทสำคัญใน Operation Bayonet ซึ่งเป็นความร่วมมือระดับนานาชาติระหว่างหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายหลายประเทศ ในการโค่นล้มตลาดมืดชื่อดังอย่าง AlphaBay ในช่วงปี 2016–2017 โดยพวกเขาสามารถติดตามธุรกรรมบล็อกเชนและช่วยยึดครองกระเป๋าเงินดิจิทัลที่เชื่อมโยงกับกิจกรรมผิดกฎหมายจำนวนมาก การปิดตัวของ AlphaBay ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่สะเทือนทั้งโลกคริปโต และส่งผลให้ Bitcoin ค่อย ๆ เปลี่ยนภาพลักษณ์จาก “เงินของตลาดมืด” ไปสู่สินทรัพย์การลงทุนในสายตานักลงทุนสถาบัน ซึ่งมีส่วนทำให้ราคาของ Bitcoin พุ่งขึ้นกว่า 40 เท่าในช่วงเวลาไม่กี่ปีหลังจากนั้น
ย้อนกลับมาที่ปี 2025 แม้ Ross Ulbricht ผู้ก่อตั้ง Silk Road จะได้รับการอภัยโทษจากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากรับโทษจำคุกมาแล้วกว่า 11 ปี (จากโทษเดิมที่รวมจำคุกตลอดชีวิต และอีก 2 กระทงรวมกว่า 40 ปี)
แต่คดีที่รายล้อมเขาก็ยังคงทิ้งร่องรอยไว้อย่างลึกซึ้ง ล่าสุดการโอน Bitcoin จำนวนมหาศาล 300 BTC ให้กับ Ulbricht ภายหลังการปล่อยตัว กลับกลายเป็นปริศนาใหม่ที่สร้างความเคลือบแคลงให้กับชุมชนคริปโต โดยเฉพาะเมื่อกระเป๋าที่โอนเงินนั้นมีความเชื่อมโยงกับ AlphaBay ตลาดมืดที่ Chainalysis เคยช่วยโค่นล้มมาก่อน ยิ่งทำให้คำถามเกี่ยวกับตัวตนและแรงจูงใจของผู้บริจาค ซึ่งยังคงไร้คำตอบที่แน่ชัด
ที่มา : Cointelegraph