Michael Saylor ผู้ก่อตั้งบริษัท Strategy (หรือชื่อเดิม MicroStrategy) ได้ออกมาคลายความกังวลเกี่ยวกับภัยคุกคามจาก “ควอนตัมคอมพิวเตอร์” ที่มีต่อ Bitcoin โดย Michael Saylor กล่าวอย่างชัดเจนว่า “ไม่รู้สึกกังวล” พร้อมย้ำว่า Bitcoin เป็นโปรโตคอลที่มีการอัปเกรดซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อยู่ตลอดเวลา และยังเป็นสิ่งที่แฮ็กได้ยากที่สุดในโลก
Michael Saylor ได้ให้สัมภาษณ์ โดยระบุว่า หากภัยคุกคามจาก ควอนตัมคอมพิวเตอร์เริ่มเป็นรูปธรรมขึ้นจริงในอนาคต Bitcoin ก็มีศักยภาพในการอัปเกรดซอฟต์แวร์เพื่อรับมือได้ทันท่วงที
แม้ว่าระบบความปลอดภัยหลักของ Bitcoin อย่าง ECDSA (Elliptic Curve Digital Signature Algorithm) และ SHA-256 อาจมีความเสี่ยงที่จะถูกเจาะได้หากคอมพิวเตอร์ควอนตัมพัฒนาไปถึงระดับนั้น แต่ Michael Saylor ก็ยังไม่เชื่อว่า สิ่งนี้จะเกิดขึ้นในเร็ววัน
ความกังวลเกี่ยวกับ “ซูเปอร์คอมพิวเตอร์” เริ่มร้อนแรงขึ้น ตั้งแต่ปลายปี 2024 หลังจากที่ Google เปิดตัวชิปควอนตัมชื่อ “Willow” และในปี 2025 Microsoft ก็ไม่ยอมน้อยหน้า ด้วยการเปิดตัวชิปควอนตัม ที่กล่าวกันว่า ทรงพลังยิ่งกว่า
สิ่งนี้ได้จุดกระแสความสนใจ ให้เกิดแนวทางในการป้องกันล่วงหน้า เช่น ข้อเสนอ BIP 360 ที่ออกแบบมา เพื่อให้ Bitcoin สามารถต้านทานต่อการโจมตีด้วยเทคโนโลยีควอนตัมได้ในอนาคต
แม้จะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แต่ Michael Saylor เชื่อว่า Google, Microsoft หรือบริษัทใหญ่ ๆ ที่วิจัยควอนตัม จะไม่รีบปล่อยเทคโนโลยีที่สามารถแฮ็กการเข้ารหัสในปัจจุบันออกสู่ตลาด เพราะจะส่งผลเสียรุนแรงต่อทั้งตัวบริษัทเอง รัฐบาลสหรัฐฯ และระบบธนาคารทั่วโลก
ปัจจุบัน Bitcoin มีมูลค่าตลาดรวมกว่า 2.3 ล้านล้านดอลลาร์ และมี Bitcoin ราว 3.3 ล้านเหรียญ อยู่ในความครอบครองของสถาบันต่าง ๆ ซึ่งรวมมูลค่ากว่า 350,000 ล้านดอลลาร์
บริษัท Strategy ของ Michael Saylor ก็ถือครอง Bitcoin อยู่มากถึง 580,000 BTC คิดเป็นมูลค่าราว ๆ 62,000 ล้านดอลลาร์หรือประมาณ 2.7% ของเหรียญทั้งหมดที่มีอยู่ในระบบ
แม้ภัยจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมอาจเกิดขึ้นอีกราว 5-20 ปี แต่การเริ่มพูดคุยและวางแผนรับมือตั้งแต่ตอนนี้ ก็ถือเป็นก้าวสำคัญในการเตรียมเครือข่าย Bitcoin สู่ยุคหลังควอนตัมอย่างมั่นคง
ที่มา : ambcrypto