Ripple Labs บริษัทเทคโนโลยีด้านบล็อกเชนชื่อดัง ประกาศสนับสนุนเงินทุน 5 ล้านดอลลาร์ (163 ล้านบาท) เพื่อสนับสนุนงานวิจัยทางวิชาการและพัฒนาบุคลากรด้านบล็อกเชนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ผ่านโครงการ University Blockchain Research Initiative (UBRI)
ในบล็อกโพสต์ล่าสุดของ Ripple ระบุว่า เงินทุนเพิ่มเติมนี้จะถูกจัดสรรให้กับมหาวิทยาลัยใน 6 ประเทศ โดยเฉพาะไต้หวันและออสเตรเลียที่เป็นประเทศใหม่ที่เพิ่งเข้าร่วมโครงการ โดยเป้าหมายหลักคือการสนับสนุนงานวิจัยและผลิตบุคลากรที่มีทักษะด้านบล็อกเชนเพื่อรองรับอนาคตของเทคโนโลยี
UBRI เคยสนับสนุนเงินจำนวน 1.1 ล้านดอลลาร์ ให้กับ Yonsei University ในเกาหลีใต้ ผ่านความร่วมมือระยะเวลา 6 ปี ขณะที่ในญี่ปุ่นก็มีการสนับสนุนเงิน 1.5 ล้านดอลลาร์ ให้กับ Kyoto University และ University of Tokyo ส่วนในสิงคโปร์มีการมอบเงินรวมกว่า 3 ล้านดอลลาร์ ให้กับ Nanyang Technological University และ National University of Singapore
“ด้วยเงินทุนที่ได้รับในครั้งนี้ เรากำลังพัฒนาเครือข่าย AI แบบอัตโนมัติบน XRP Ledger เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่โปร่งใส ยืดหยุ่น เข้าถึงง่าย และสนับสนุนการร่วมมือในระดับโลก” -ศาสตราจารย์ Yang Liu แห่ง Nanyang Technological University กล่าว
ในไต้หวัน UBRI จับมือกับ National Kaohsiung University of Science and Technology เพื่อศึกษาเรื่องการแปลงสินทรัพย์ในโลกจริง (Real-World Asset) ให้กลายเป็นโทเคนดิจิทัล โดยอิงบน XRP Ledger
“NKUST รู้สึกตื่นเต้นกับบทใหม่ของความร่วมมือกับ UBRI เพื่อสำรวจศักยภาพของการแปลงสินทรัพย์จริงให้เป็นดิจิทัลผ่านเทคโนโลยีของ Ripple” -ศาสตราจารย์ Echo Huang กล่าว
ในออสเตรเลีย UBRI ได้ขยายความร่วมมือกับ Australian National University และจับมือกับ Victoria University โดยมีเงินสนับสนุนรวม 1.3 ล้านดอลลาร์ เพื่อผลักดันการศึกษาและวิจัยด้านบล็อกเชน
โดยก่อนหน้านี้ในเดือนพฤษภาคม Ripple ได้บริจาค stablecoin RLUSD มูลค่า 25 ล้านดอลลาร์ ให้กับองค์กรไม่แสวงหากำไรในสหรัฐฯ เพื่อยกระดับทรัพยากรให้ครูและบุคลากรด้านการศึกษา ขณะที่ในเดือนมีนาคม Ripple ยังได้เปิดตัวองค์กรไม่แสวงหากำไรชื่อว่า National Cryptocurrency Association พร้อมอัดเงิน 50 ล้านดอลลาร์ เพื่อส่งเสริมความรู้เรื่องคริปโตในประเทศอีกด้วย
ที่มา: Cointelegraph