ในขณะที่ราคา XRP กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 2 ดอลลาร์ ดูเหมือนว่าราคาเหรียญจะกำลังสะสมแนวโน้มในรูปแบบ bull pennant บนกราฟรายสัปดาห์ ซึ่งเป็นสัญญาณที่หลายฝ่ายมองว่าอาจนำไปสู่การพุ่งทะยานแบบที่เคยเกิดขึ้นในปี 2017
นักวิเคราะห์ชื่อ Mikybull Crypto ระบุว่า การเคลื่อนไหวของราคา XRP ในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมามีความคล้ายคลึงกับช่วงก่อนที่ราคาจะพุ่งกว่า 1,300% ในปี 2017 โดยเป้าหมายขาขึ้นในรอบนี้อาจไปได้ไกลถึง 14 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้น 530% จากระดับปัจจุบันที่ประมาณ 2.21 ดอลลาร์
“ผมเคยเห็นหนังเรื่องนี้มาแล้ว … กลิ่นอายการพุ่งขึ้นแบบปี 2017 กำลังกลับมาอีกครั้ง”
โดยรูปแบบ bull pennant คือหนึ่งในรูปแบบการสะสมแรงซื้อที่สำคัญ ที่จะเกิดขึ้นหลังจากราคาพุ่งแรงขึ้นและเข้าสู่การเคลื่อนไหวในรูปแบบสามเหลี่ยมสมมาตรเล็ก ๆ ก่อนจะทะลุแนวต้านเพื่อไปต่อในทิศทางขาขึ้น ซึ่งหาก XRP สามารถทะลุแนวต้านของสามเหลี่ยมนี้ได้ ก็มีโอกาสสูงที่จะพุ่งขึ้นตามความสูงของแนวโน้มก่อนหน้า
ในขณะที่นักวิเคราะห์บางรายยังมองเป้าหมายที่ทะเยอทะยานมากกว่านั้น โดยมีบางโมเดลที่คาดว่า XRP อาจแตะ 27 ดอลลาร์ และจากการวิเคราะห์ fractal, Elliott wave รวมถึง Fibonacci extensions ขณะที่บางเสียงมองว่า หากมีการอนุมัติ XRP ETF ในสหรัฐฯ อาจหนุนราคาให้พุ่งขึ้นถึง 1,100% แตะ 25 ดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ XRP ต้องทำให้ได้ในระยะสั้น คือการทะลุแนวต้านที่ 2.27 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน และหากสามารถเปลี่ยนโซนแนวต้านที่ 2.37 – 2.65 ดอลลาร์ ให้กลายเป็นแนวรับได้ ก็จะเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อเนื่องในการกลับไปสู่ระดับ 3.00 ดอลลาร์ หรือแม้แต่สูงกว่านั้นที่ 3.31 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรจับตาดูการเคลื่อนไหวของราคา XRP อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเมื่อ RSI กลับมาอยู่ในระดับ 52 แสดงถึงการฟื้นตัวจากสภาวะ oversold ที่ระดับ 29 ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการพุ่งขึ้นครั้งใหม่อีกครั้งในเร็วๆ นี้
ทั้งนี้ บทความดังกล่าวเป็นเพียงแค่การเสนอข่าวเท่านั้น การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนอาจเสียเงินทั้งจำนวนได้ ดังนั้นผู้ลงทุนควรที่จะศึกษาและประเมินความเสี่ยงก่อนที่จะลงทุนในสินทรัพย์ใดๆ อยู่เสมอ
ที่มา: Cointelegraph