<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

JPMorgan เล็งเปิดตัว Stablecoin ‘JPMD’ หลังยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าใหม่ 

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เอกสารคำขอเครื่องหมายการค้าฉบับใหม่จากสำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าของสหรัฐฯ (USPTO) บ่งชี้ว่า JPMorgan อาจกำลังเตรียมเปิดตัวเหรียญ Stablecoin ของตนเอง โดยเอกสารดังกล่าวระบุชื่อผลิตภัณฑ์นี้ว่า “JPMD” แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม 

กระแสข่าวลือนี้นำไปสู่สมมติฐานมากมาย โดยบางคนเชื่อว่า “JPMD” อาจย่อมาจาก “JPMorgan Dollar”  

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาเอกสารคำขอเครื่องหมายการค้าอย่างละเอียด จะพบว่าไม่มีการใช้คำว่า “Stablecoin” โดยตรง แต่มีการอ้างถึงคำอย่าง “โทเคนสำหรับชำระเงิน” และ “สกุลเงินที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน”

คำอื่น ๆ ที่ปรากฏ ได้แก่ การซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล การโอนเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ นายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ การซื้อขายโทเคนแบบเรียลไทม์ และบริการดูแลสินทรัพย์ ซึ่งล้วนสอดคล้องกับการดำเนินงานของ Stablecoin แต่ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน

มีเบาะแสบางอย่างที่ทำให้สมมุติฐานนี้ดูเป็นไปได้มากขึ้น โดยก่อนหน้านี้ JPMorgan เคยพิจารณาเปิดตัว Stablecoin ร่วมกับ Bank of America และบริษัทอื่น ๆ แต่ภายหลัง Bank of America ได้เดินหน้าโปรเจกต์ของตนเอง และดูเหมือนว่า JPMorgan จะหลุดจากแผนความร่วมมือ

อาจเป็นไปได้ว่า JPMD คือการตอบโต้ของ JPMorgan ต่อการเคลื่อนไหวนี้ โดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลทรัมป์มีแผนผลักดัน Stablecoin และบริษัทอย่าง Amazon กับ Walmart ก็เตรียมออกเหรียญของตนเองเช่นกัน

สิ่งที่น่าสนใจคือ เคยมีข่าวว่า JPMorgan ได้หารือเรื่องการเปิดตัว Stablecoin ร่วมกับ Bank of America และบริษัทอื่นๆ มาก่อนหน้านี้ แต่ดูเหมือนว่า Bank of America จะเริ่มเดินหน้าทำโปรเจกต์ของตัวเองไปแล้ว ซึ่งอาจเป็นเหตุผลให้ JPMorgan ตัดสินใจเริ่มดำเนินการเองบ้าง

อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างยังเป็นเพียงการคาดการณ์ตามบริบทตลาดและเบาะแสต่าง ๆ เพราะ JPMorgan ยังไม่เคยออกแถลงการณ์ใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยค่าธรรมเนียมในการยื่นขอเครื่องหมายการค้ามีเพียง $1,150 เท่านั้น ซึ่งยังไม่ถือเป็นการแสดงเจตจำนงที่จริงจัง

สิ่งที่น่าสนใจคือ การยื่นคำขอนี้เกิดขึ้นในช่วงที่สภาสหรัฐฯ กำลังพิจารณาร่างกฎหมาย Stablecoin ฉบับแรก (GENIUS Act) ซึ่งหากผ่านจะเปิดทางให้สถาบันการเงิน เช่น JPMorgan สามารถออก Stablecoin ภายใต้กรอบกฎหมายที่ชัดเจน

ที่มา : beincrypto