กระแส Bitcoin ETF กำลังมาแรงสุดๆ จนตอนนี้ กองทุน XRP ETF และ กองทุน Solana ETF เริ่มเป็นที่จับตา ส่งผลให้นักลงทุนสายการเงินดั้งเดิม (TradFi) ที่เคยลังเลเกี่ยวกับคริปโต พากันหันมาลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับคริปโต และบล็อกเชนกันมากขึ้น
การลงทุนผ่านหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และเกี่ยวข้องกับคริปโต ไม่ว่าจะเป็น Bitcoin, stablecoin หรือระบบนิเวศของ Solana ถือเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและสะดวกกว่าเยอะ เนื่องจากไม่ต้องยุ่งยาก กับการจัดการกระเป๋าคริปโต หรือกังวลเรื่องคีย์ส่วนตัว วิธีนี้ช่วยให้นักลงทุนทั่วไป สามารถเข้าถึงตลาดคริปโตได้ง่ายขึ้น แถมยังลดความเสี่ยงได้ในหลายๆ ด้าน
ในบทความนี้ ทางสยามบล็อกเชน จะพาไปทำความรู้จัก หุ้นบล็อกเชนที่น่าจับตามองประจำปี 2025 ที่ไม่ควรพลาดในการจัดพอร์ตลงทุนคริปโตของคุณ ไม่ว่าจะเป็นหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ Solana หรือแม้แต่หุ้นบริษัท Stablecoin มาดูกันเลยว่า จะมีหุ้นตัวไหนที่น่าสนใจบ้าง
หุ้นคริปโตที่น่าจับตาในปี 2025
- Sol Strategies (HODL)
แม้หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นชื่อ Sol Strategies (HODL) เท่าไรนัก แต่นี่คือบริษัทจดทะเบียนสาธารณะแห่งเดียวในอเมริกาเหนือที่โฟกัสไปที่ บล็อกเชน Solana แบบเต็มตัว และล่าสุดบริษัทก็ได้ยื่นเอกสารเพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาด Nasdaq ภายใต้สัญลักษณ์ “STKE” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว!
ทันทีหลังจากประกาศข่าวนี้เมื่อวาน หุ้นของบริษัทก็พุ่งขึ้นกว่า 4% ทันที แตะจุดสูงสุดที่ 2.42 ดอลลาร์แคนาดา ก่อนจะปิดตลาดลดลงมาเล็กน้อย แม้ว่าตั้งแต่ต้นปีราคาหุ้นจะยังลดลงประมาณ 25% ก็ตาม แต่การยื่นเอกสารเข้าจดทะเบียนในตลาด Nasdaq ครั้งนี้ ถือเป็นการพลิกเกมครั้งสำคัญ เพราะจะช่วยให้ Sol Strategies เข้าถึงกลุ่มนักลงทุนที่ใหญ่ขึ้นมาก แถมยังเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทอีกด้วย
Sol Strategies เป็นบริษัทที่ถือครองโทเค็น SOL กว่า 420,000 เหรียญ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 61 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเน้นลงทุนในกิจกรรม การ staking, การดูแลระบบ validator และยังสนับสนุนโปรเจกต์ Solana รุ่นใหม่ ๆ อีกด้วย
ถ้า Sol Strategies ได้รับการอนุมัติ ให้เข้าจดทะเบียนในตลาด Nasdaq ก็จะช่วยให้นักลงทุนแบบดั้งเดิม เข้าถึงระบบนิเวศของ Solana ได้ง่ายขึ้นอย่างมหาศาล
ซึ่ง Solana มีศักยภาพที่โดดเด่นในด้าน DeFi และ สินทรัพย์โทเคนไนซ์ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ Sol Strategies ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในหุ้นคริปโตที่น่าจับตามองในตอนนี้
- Circle Internet Group (CRCL)
Circle Internet Group (CRCL) เพิ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นมาได้ไม่กี่สัปดาห์ แต่ก็เริ่มได้รับความสนใจอย่างมาก บริษัทนี้เป็นผู้พัฒนา stablecoin อย่าง USDC ซึ่งเป็น stablecoin ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก โดยสามารถระดมทุนไปได้ถึง 1.1 พันล้านดอลลาร์จากโปรเจกต์ในช่วงเริ่มต้น ด้วยมูลค่าบริษัทเกือบ 7 พันล้านดอลลาร์
หลังจากนั้น ราคาหุ้นก็พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาเพิ่มขึ้นถึง 13% แตะที่ 165 ดอลลาร์ เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน และทำราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 200 ดอลลาร์เมื่อวานนี้ ซึ่งขณะนี้มูลค่าตลาดของบริษัทอยู่ที่เกือบ 5 หมื่นล้านดอลลาร์

แม้ว่าตอนนี้บริษัทยังไม่สามารถทำกำไรได้ (เห็นได้จากอัตราส่วน P/E ที่ยังติดลบ) แต่นักลงทุนก็ยังมั่นใจในรายได้ที่มั่นคงของ USDC แถมกระแสการผลักดันกฎระเบียบเกี่ยวกับ stablecoin ก็กำลังมาแรงสุดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังกฎหมาย GENIUS Act ผ่านการอนุมัติจากวุฒิสภาไปแล้วเมื่อสัปดาห์นี้ ทำให้ Circle มีโอกาสที่จะได้รับประโยชน์อย่างมากในอนาคต
- Coinbase Global (COIN)
Coinbase Global (COIN) เป็นแพลตฟอร์มเทรดคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา และถือเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ใหญ่ที่สุดในระดับโลก ซึ่ง Coinbase มีผู้ใช้งานมากกว่า 100 ล้านคน และมีสินทรัพย์ที่ดูแลมากกว่า 4 แสนล้านดอลลาร์ ล่าสุดราคาหุ้นของบริษัทก็ได้รับแรงหนุนอย่างมีนัยสำคัญ
โดยหุ้น COIN พุ่งขึ้น 16% ในวันเดียว ปิดที่ราคาสูงกว่า 295 ดอลลาร์ หลังจากที่วุฒิสภาผ่านกฎหมาย GENIUS Act ซึ่งกฎหมายฉบับนี้ไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่อ Coinbase แต่ตลาดหุ้นมองว่า เป็นสัญญาณบวกที่ส่งผลดีต่อภาพรวมของวงการคริปโตทั้งหมด

ทั้งนี้บริษัทมีกำไรสุทธิ 2.58 พันล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา และมีอัตราส่วนกำไรต่อราคาหุ้น (P/E) ที่มั่นคงอยู่ที่ 55.51 หากราคา Bitcoin ยังคงปรับตัวขึ้น ปริมาณการซื้อขายคริปโตน่าจะเพิ่มขึ้นตาม ซึ่งนั่นคือแหล่งรายได้หลักของ Coinbase
- Strategy (MSTR)
Strategy (MSTR) เริ่มต้นจากบริษัทซอฟต์แวร์ธุรกิจที่ดูเรียบง่าย แต่ตอนนี้กลายเป็นบริษัทที่ถือครอง Bitcoin ขนาดใหญ่ โดยบริษัทถือครอง Bitcoin มากกว่า 592,000 BTC มูลค่าราว 62,000 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นกว่า 2.5% ของ Bitcoin ทั้งหมดในตลาด
ล่าสุดราคาหุ้นปิดที่ 369.03 ดอลลาร์ ถึงแม้จะลดลงเล็กน้อยในวันนั้น แต่ก็ยังพุ่งขึ้นเกือบ 270% ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา แม้ว่าไตรมาสล่าสุดบริษัทจะขาดทุนหนักถึง 4.22 พันล้านดอลลาร์ ก็ตาม
การลงทุนในหุ้นตัวนี้จึงถือว่ามีความเสี่ยงสูงมาก แต่ก็เป็นหนึ่งในวิธีที่ตรงไปตรงมาและใช้เลเวอเรจสูงสุดในการเข้าถึง Bitcoin ผ่านตลาดหุ้นได้เลย

ไมเคิล เซย์เลอร์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Strategy ได้เปลี่ยนการซื้อ Bitcoin ให้กลายเป็นรูปแบบธุรกิจอย่างแท้จริง
บริษัท Strategy ระดมทุนโดยการออกหุ้นและก่อหนี้ เพื่อนำเงินไปซื้อ Bitcoin เพิ่มขึ้น และได้กำไรเมื่อราคาของ Bitcoin ขยับขึ้น การลงทุนแบบนี้มีความเสี่ยงสูง ไม่เหมาะกับคนใจไม่แข็ง แต่สำหรับนักลงทุนที่พร้อมรับความเสี่ยง หุ้นของบริษัท Strategy ถือเป็นหนึ่งในหุ้นคริปโตที่น่าจับตามองมากที่สุด
ทำไมถึงควรลงทุนในหุ้นคริปโต
ขณะนี้หุ้นคริปโตกลายเป็นเรื่องที่ทุกคนพูดถึง ซึ่งไม่ได้จำกัดเพียงบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X หรือ Reddit เท่านั้น แต่สื่อใหญ่ ๆ อย่าง Cointelegraph, CNBC และ Bloomberg ต่างรายงานถึงการฟื้นตัวของตลาดคริปโตอย่างต่อเนื่อง โดย Cointelegraph เรียกช่วงเวลานี้ว่า “stablecoin summer” ซึ่งแรงหนุนหลักมาจากกฎหมายเชิงบวกอย่าง GENIUS Act
แล้วทำไมต้องลงทุนผ่านหุ้น? ประการแรก คุณจะเข้าถึงตลาดคริปโตโดยไม่ต้องกังวลกับการจัดการกระเป๋าเงิน , Private Key หรือความเสี่ยงบนบล็อกเชน อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากความชัดเจนด้านกฎระเบียบ เพราะบริษัทจดทะเบียนต้องเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส มากกว่าโปรเจกต์คริปโตทั่วไป
นอกจากนี้ นี่ก็เป็นโอกาสที่คุณจะได้ร่วมเกาะกระแสการยอมรับจากสถาบันที่กำลังมาแรงสุดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับข่าวลือเกี่ยวกับ กองทุน Spot Solana ETF และ หุ้นโทเคนไนซ์ ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก ทำให้หุ้นที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชนกลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ในตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และนี่แหละคือเหตุผลที่ทำให้บริษัทอย่าง Sol Strategies กลายเป็นที่จับตามองของนักลงทุนอย่างมากในตอนนี้
หุ้นคริปโตราคาต่ำกับการระดมทุนแบบโปรเจกต์ในช่วงเริ่มต้น
ทั้งหุ้นคริปโตราคาต่ำ (Penny Crypto Stocks) และการระดมทุนในช่วงโปรเจกต์เริ่มต้น ต่างก็เป็นทางเลือกที่ช่วยให้นักลงทุนเข้าถึงตลาดคริปโตได้ในราคาย่อมเยาว์ แต่ทั้งสองมีข้อแตกต่างในเรื่องกฎเกณฑ์ และลักษณะการลงทุนอย่างชัดเจน
หุ้นคริปโตราคาต่ำ คือ หุ้นของบริษัทบล็อกเชนขนาดเล็กที่มีมูลค่าตลาดต่ำกว่า 5 ดอลลาร์ โดยส่วนใหญ่มักซื้อขายในตลาด OTC ซึ่งมีการควบคุมดูแลน้อยกว่าตลาดหลักทรัพย์ใหญ่ หุ้นกลุ่มนี้ให้นักลงทุนมีสิทธิ์ความเป็นเจ้าของบริษัท และราคาหุ้นสามารถผันผวนได้สูง ตามกระแสข่าวหรือความนิยม
ส่วน การระดมทุนในช่วงโปรเจกต์เริ่มต้น คือ การลงทุนโดยตรงในโปรเจกต์บล็อกเชนผ่านการซื้อโทเค็นดิจิทัลของโปรเจกต์นั้น โดยทั่วไปจะไม่มีสิทธิ์ถือหุ้นในบริษัท แต่เป็นการลงทุนในมูลค่าการใช้งาน หรือความคาดหวังของโทเค็นนั้น ๆ ซึ่งมีการควบคุมดูแลน้อยกว่าหุ้น ทำให้เข้าถึงง่าย แต่ก็มีความเสี่ยงสูง ตัวอย่างการระดมทุนในช่วงโปรเจกต์เริ่มต้น ที่โด่งดังที่สุดคือ Ethereum

หากคุณชอบแนวคิดการเข้าไปลงทุนตั้งแต่ช่วงแรก ๆ การระดมทุนในช่วงโปรเจกต์เริ่มต้น อาจให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า โดยเฉพาะเมื่อโปรเจกต์นั้นช่วยแก้ไขปัญหาโครงสร้างพื้นฐานที่แท้จริง อย่างโปรเจกต์ Solaxy (SOLX) เหรียญคริปโตที่น่าจับตามองในระยะยาว
Solaxy (SOLX) สามารถระดมทุนในช่วงโปรเจกต์เริ่มต้น ไปได้แล้วกว่า 54 ล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายแก้ปัญหาความแออัดของเครือข่าย Solana ด้วยเทคโนโลยี Layer-2 rollups
นอกจากนี้ Solaxy ยังจัดเต็มด้วยฟีเจอร์เด็ดๆ เพียบ ไม่ว่าจะเป็น DEX (กระดานเทรดแบบกระจายศูนย์) ภายในระบบ, สะพานเชื่อมข้ามเครือข่ายกับ Ethereum ที่ทำให้การโอนย้ายสินทรัพย์เป็นเรื่องง่ายๆ, และที่น่าสนใจสุดๆ คือ แพลตฟอร์มสำหรับเปิดตัวเหรียญมีมโดยเฉพาะ
สำหรับนักลงทุนที่มองหาทางเลือกใหม่แทนหุ้นราคาต่ำ SOLX ถือเป็นโปรเจกต์ที่ควรจับตามองในช่วงนี้
หากสนใจโปรเจกต์สามารถเข้าไปศึกษา Solaxy เพิ่มเติม ได้แล้ว
เช็คลิสต์ | รายละเอียด | สถานะ |
---|---|---|
1. เว็บไซต์ & Whitepaper | โปรเจกต์มีเว็บไซต์ที่ดูน่าเชื่อถือ และมีเอกสาร Whitepaper ที่ระบุข้อมูลชัดเจนไม่กำกวม | ✔️ |
2. ความโปร่งใสของทีมงาน | ทีมพัฒนามีการเปิดเผยตัวตนชัดเจนไม่ได้ปกปิดข้อมูลแต่อย่างใด | ❌ |
3. Tokenomics | เหรียญมีการแจกแจงการปันส่วนที่สมเหตุผล และฝ่ายใดถือครองจนมากเกินไป | ✔️ |
4.Smart Contract | Smart contract มีความโปร่งใสและถูกตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีการใส่โค้ดแอบแฝงเพื่อโจมตีนักลงทุน | ⚠️ (ไม่ชัดเจน) |
5. มีกำหนดการชัดเจน | โปรเจกต์มีการกำหนดวันสิ้นสุดการระดมทุนพรีเซล รวมถึงวันลิสต์เหรียญอย่างชัดเจน | ❌ |
6. ผู้ใช้สามารถถอนเงินได้ | กรณีเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดขึ้น นักลงทุนยังคงสามารถทำการถอนเงินคืนได้ | ⚠️ (ไม่ชัดเจน) |
7. คอมมูนิตี้ | โปรเจกต์มีชุมชนคอยให้การสนับสนุนจริง ไม่ได้ถูกรันด้วยบอทเพียงอย่างเดียว | ✔️ |
8. สภาพคล่อง | โปรเจกต์มีการล็อกสภาพคล่องเพื่อระงับไม่ให้เกิดการ Rug pull ขึ้น | ❌ |
9. สัญญาณอันตราย | โปรเจกต์ไม่มีสัญญาณอันตราย เช่น การระดมทุนจะสิ้นสุดเมื่อราคาถึงระดับ XXX เป็นต้น | ✔️ |
อ่านรายละเอียดเช็คลิสต์เพิ่มเติมได้ที่นี่ |
บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์คริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุนคริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ โปรดศึกษาข้อมูลให้รอบคอบและลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่ท่านยอมรับได้ ทาง Siam Blockchain รวมถึงผู้บริหารและพนักงานของบริษัท ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบในทุกกรณีหากเกิดความเสียหายจากการลงทุนของท่าน
บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์