<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Ripple อาจมาก่อน Bitcoin! อีเมลปี 2014 เผยแนวคิดริเริ่มตั้งแต่ปี 2004

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

บุคคลในชุมชน XRP ที่ชื่อว่า SMOQE ได้แชร์เอกสารฉบับหนึ่ง ซึ่งชี้ให้เห็นว่า Ripple อาจมีต้นกำเนิดมาก่อน Bitcoin 

เอกสารอีเมลลงวันที่ปี 2014 ได้เปิดเผยบทสนทนาระหว่างบุคคลในวงการคริปโต รวมถึงนักข่าวสายเทคโนโลยีอย่าง Reutzel Bailey ซึ่งระบุว่า แนวคิดเบื้องหลัง Ripple ถูกริเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2004 หรือก่อนที่ Satoshi Nakamoto จะเผยแพร่เอกสาร Whitepaper ของ Bitcoin นานถึง 4 ปี

Reutzel Bailey เปิดเผยว่า Ryan Fugger คือ ผู้ที่ริเริ่มแนวคิดเบื้องหลัง Ripple มาตั้งแต่ปี 2004 ก่อนที่ Chris Larsen จะเข้ามาผลักดันโปรเจกต์ให้เข้าสู่กระแสหลัก โดยอาศัยกระแสความนิยมของ Bitcoin ที่กำลังมาแรงในขณะนั้นเป็นแรงบันดาลใจ 

Bailey ยังให้ความเห็นเพิ่มเติมด้วยว่า “ผมคิดว่า Chris Larsen พยายามผลักดัน Ripple ให้กลายเป็นคริปโตเคอร์เรนซี เพราะอยากให้คนสนใจ ทั้งที่เดิมทีแพลตฟอร์มนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคริปโตเลยด้วยซ้ำ

ด้าน Jeffrey Cliff ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมสนทนาในอีเมลดังกล่าว ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่า Ripple เป็นเพียงเหรียญที่เลียนแบบ Bitcoin โดยยืนยันว่า “Ripple เกิดมาก่อน Bitcoin เสียอีก”

แม้แนวคิดของ Ripple จะถูกวางรากฐานมาตั้งแต่ปี 2004 แต่เหรียญ XRP เองเพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2012 หรือราว 4 ปีหลังจากการถือกำเนิดของ Bitcoin ในปี 2008

ดังนั้น แม้ในเชิงเทคนิค Ripple อาจมีอายุแนวคิดที่ “เก่าแก่กว่า” แต่หากมองในแง่ของการเป็นสกุลเงินดิจิทัลแบบคริปโตเคอร์เรนซี Bitcoin ยังคงได้รับการยอมรับว่าเป็นเหรียญแรกของโลก

ทั้งนี้ หากย้อนกลับไปในปี 2004 Ryan Fugger ได้เริ่มเปิดตัวโปรเจกต์ชื่อ “RipplePay” โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างระบบโอนเงินระหว่างบุคคล โดยไม่ต้องพึ่งพาธนาคาร

ต่อมาในปี 2011 บุคคลสำคัญอย่าง Jed McCaleb, Arthur Britto และ David Schwartz ได้ร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยี XRP Ledger (XRPL) ขึ้นมา โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างระบบที่เหนือกว่า Bitcoin โดยเฉพาะการหลีกเลี่ยงข้อจำกัดด้านกลไก Proof-of-Work (PoW)

หลังจากพัฒนา XRPL ได้ระยะหนึ่ง McCaleb ได้ชักชวน Ryan Fugger ให้มาร่วมสานต่อแนวคิดของ RipplePay โดยเปลี่ยนให้กลายเป็นเครือข่ายคริปโตอย่างเต็มตัว ซึ่ง Fugger ก็ตอบตกลง และมอบสิทธิ์ในการดูแลโปรเจกต์ให้กับทีมใหม่อย่างเป็นทางการ

ในปี 2012 McCaleb จับมือกับ Chris Larsen เปิดตัวโปรเจกต์ใหม่ในชื่อ “NewCoin” ก่อนจะเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น OpenCoin และในที่สุดกลายเป็น Ripple ที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน

ในปีเดียวกัน ทีมผู้ก่อตั้ง XRPL ได้มอบเหรียญ XRP จำนวน 80,000 ล้านเหรียญ ให้กับบริษัท Ripple โดยในจำนวนนี้ Jed McCaleb ได้รับ XRP ไปถึง 9.5 พันล้านเหรียญ ซึ่งต่อมาเขาได้ถอนตัวจาก Ripple และไปก่อตั้งโปรเจกต์ใหม่ในชื่อ Stellar (XLM) พร้อมทยอยขาย XRP ที่ถืออยู่ตามข้อตกลง จนขายหมดในปี 2022

ส่วน Chris Larsen ยังคงทำงานอยู่กับ Ripple จนถึงปัจจุบัน โดยดำรงตำแหน่ง ประธานบริษัท

ที่มา : thecryptobasic