Vlad Tenev ซีอีโอและประธานบริษัทเปิดเผยในงาน Robinhood Presents: To Catch a Token ที่เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศสว่า บริษัท Robinhood กำลังเตรียมเปิดตัว “โทเคนหุ้นสหรัฐฯ และ ETF” สำหรับลูกค้าในยุโรป พร้อมกับเปิดตัวบล็อกเชนเลเยอร์ 2 ของตัวเอง และบริการฟิวเจอร์สแบบ Perpetual ในยุโรป
Vlad Tenev กล่าวว่า ลูกค้าในสหภาพยุโรป (EU) จะสามารถลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ ผ่าน Robinhood Stock Tokens ได้ โดยไม่มีค่าคอมมิชชัน หรือค่าส่วนต่าง (spread) จากทางแพลตฟอร์ม (แต่ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นตามจริง) และสามารถซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งลูกค้าในยุโรปจะสามารถเข้าถึงโทเคนหุ้นและ ETF ของสหรัฐฯ กว่า 200 รายการ
ผู้ถือโทเค็นหุ้นจะได้รับเงินปันผลผ่านแอป Robinhood ได้โดยตรง เช่นเดียวกับการถือหุ้นแบบดั้งเดิม
“แอป Robinhood ในยุโรป จะเปลี่ยนจากแอปคริปโตล้วน ๆ มาเป็นแอปลงทุนแบบครบวงจร ที่ขับเคลื่อนด้วยคริปโต”

ที่มา: Robinhood
โทเคนหุ้นชุดแรกจะถูกออกบน Ethereum เลเยอร์ 2 อย่าง Arbitrum และในอนาคต Robinhood มีแผนจะเปิดตัวบล็อกเชนของตัวเอง ซึ่งพัฒนาต่อยอดจาก Arbitrum โดยออกแบบมา เพื่อรองรับการเทรดสินทรัพย์โลกจริงที่ถูกโทเคนไนซ์ (Tokenized Real-World Assets) แบบ 24 ชั่วโมง พร้อมระบบบริดจ์และ self-custody ที่ใช้งานง่าย
นอกจากนั้น Robinhood ยังเปิดตัวฟิวเจอร์สคริปโตแบบ Perpetual ให้กับลูกค้าใน EU โดยเริ่มจาก Bitcoin และ Ethereum พร้อมเปิดให้ใช้เลเวอเรจได้สูงสุด 3 เท่า และคาดว่า จะเปิดให้ทุกคนใช้งานได้ภายในสิ้นฤดูร้อนปี 2025 โดยคำสั่งซื้อจะถูกส่งผ่าน Bitstamp แพลตฟอร์มที่ Robinhood เพิ่งซื้อกิจการไปมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทได้ใบอนุญาตมากกว่า 50 ใบทั่วโลก
นอกจากนี้ Robinhood ยังเริ่มเปิดให้บริการ staking คริปโตในสหรัฐฯ โดยเริ่มจาก Ethereum และ Solana สำหรับลูกค้าที่มีสิทธิ์ใช้งาน โดยก่อนหน้านี้ลูกค้าใน EU และกลุ่มประเทศ EEA ก็สามารถ stake ผ่านแพลตฟอร์มได้แล้ว
Robinhood ยังได้มอบโบนัสพิเศษให้กับผู้ที่โอนคริปโตเข้ามายังแอป โดยจะได้รับ โบนัส 1% และจะได้ โบนัสเพิ่มเป็น 2% หากยอดฝากรวมทะลุ 500 ล้านดอลลาร์ภายในเวลาที่กำหนด

ที่มา: Robinhood
Robinhood ยังเตรียมเปิดตัว Cortex ผู้ช่วยลงทุนที่ใช้ AI ซึ่งจะวิเคราะห์ข้อมูลและความเคลื่อนไหวของตลาดแบบเรียลไทม์ ช่วยให้ผู้ใช้เห็นเทรนด์และปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาอย่างชัดเจน โดยจะเปิดให้ผู้ใช้กลุ่มแรกทดลองภายในปีนี้
Vlad Tenev กล่าวว่า เป้าหมายของ Robinhood คือ การทำให้คริปโตเข้าถึงคนทั่วไปได้มากขึ้น ไม่ใช่แค่กลุ่มวิศวกรหรือนักเทรดสายเทคนิคอีกต่อไป พร้อมดึงเครื่องมือการลงทุนที่ทรงพลังมาอยู่ในแอปเดียวที่ใช้งานง่าย
ตั้งแต่ Robinhood เริ่มเปิดให้ซื้อขายคริปโตในปี 2018 จนถึงวันนี้ Robinhood ได้เร่งขยายอิทธิพลในวงการอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเปิดให้ซื้อขาย Micro Futures ของ BTC, SOL และ XRP รวมถึงการเข้าซื้อกิจการของ WonderFi ในแคนาดา ด้วยมูลค่า 179 ล้านดอลลาร์ นับเป็นอีกก้าวที่ตอกย้ำว่า Robinhood ไม่ได้แค่ตามกระแสคริปโต แต่ตั้งใจจะเป็นผู้เล่นหลักในสนามนี้จริงจัง
ที่มา : cryptonews

