<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

สหรัฐฯ ยึดคริปโตจากเหล่ามิจฉาชีพออนไลน์ ทะลุ 400 ล้านดอลลาร์

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

หน่วย secret service ของสหรัฐฯ ยึดคริปโตเกือบ 400 ล้านดอลลาร์ เก็บไว้ในกระเป๋าเย็นที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

หน่วย secret service ของสหรัฐฯ ได้ยึดทรัพย์สินดิจิทัลมูลค่ารวมเกือบ 400 ล้านดอลลาร์ แบบเงียบ ๆ ตลอดช่วงทศวรรษที่ผ่านมาจนตอนนี้ได้ครอบครองหนึ่งในแบบ cold wallet ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตามรายงานของ Bloomberg เมื่อวันเสาร์ โดยอ้างอิงจากแหล่งข่าววงใน

หน่วยปฏิบัติการสืบสวนทั่วโลก (Global Investigative Operations Center หรือ GIOC) ของ secret service ใช้เครื่องมือ open source การวิเคราะห์บล็อกเชน และความอดทนในการติดตามเส้นทางเงิน Jamie Lam นักวิเคราะห์การสืบสวนของหน่วยงานเปิดเผยต่อเจ้าหน้าที่ในเบอร์มิวดาเมื่อเดือนที่แล้ว

คริปโตที่หน่วยงานยึดได้จำนวนมากนี้เก็บไว้ใน cold wallet เดียว ซึ่งเป็นผลจากการสอบสวนหลายกรณีเกี่ยวกับการหลอกลวง โดยหนึ่งในรูปแบบที่พบได้บ่อยคือ การชักชวนให้ลงทุนในแพลตฟอร์มคริปโตที่ดูน่าเชื่อถือ เหยื่อมักจะเห็นผลกำไรในช่วงแรก ก่อนที่เว็บไซต์จะปิดตัวไปพร้อมกับเงินฝากของพวกเขา

“พวกเขาทำแบบนั้นแหละ” Lam กล่าว “จะส่งรูปหนุ่มสาวหน้าตาดีมาให้คุณ แต่ความจริงอาจเป็นชายแก่คนหนึ่งก็ได้”

การตามรอยบล็อกเชนเปิดโปงกลโกงคริปโต

ทีมของ Lam ใช้ข้อมูลจากทะเบียนโดเมน ธุรกรรมบนบล็อกเชน และความผิดพลาดของ VPN ในการระบุตัวผู้กระทำผิด ตัวอย่างเช่น ในคดีหนึ่ง การชำระเงินด้วยคริปโตสามารถพานักสืบไปยังวอลเล็ตอื่นได้ ในอีกกรณีหนึ่ง VPN ที่หลุดเพียงช่วงสั้น ๆ ทำให้ได้ IP address ซึ่งช่วยให้ต่อจิ๊กซอว์ของการหลอกลวงได้ครบ

ผู้อยู่เบื้องหลังยุทธศาสตร์คริปโตของหน่วยงานนี้คือ Kali Smith ผู้อำนวยการทีมที่ฝึกเจ้าหน้าที่จากกว่า 60 ประเทศในการสืบสวนอาชญากรรมการเงินออนไลน์

หน่วยงานมุ่งเป้าไปยังประเทศที่กำกับดูแลอ่อนแอ หรือมีโปรแกรมขายสิทธิ์พำนักให้ชาวต่างชาติ

“บางครั้งแค่การฝึกอบรมหนึ่งสัปดาห์ เจ้าหน้าที่ในประเทศเหล่านั้นถึงกับพูดว่า ‘พวกเราไม่เคยรู้เลยว่ามันเกิดขึ้นในประเทศของเราเอง’” Smith กล่าว

การสืบสวนครอบคลุมตั้งแต่กลโกงชักชวนลงทุนด้วยการใช้ความดึงดูดทางเพศไปจนถึงคดีแบล็กเมล์ด้วยภาพลับ เช่น ในเคสหนึ่ง เด็กวัยรุ่นในรัฐไอดาโฮส่งภาพเปลือยให้กับคนแปลกหน้าออนไลน์ และถูกขู่รีดเงิน 300 ดอลลาร์ถึงสองครั้ง ก่อนจะไปแจ้งตำรวจ

นักวิเคราะห์ติดตามธุรกรรมที่เกี่ยวข้องผ่านวัยรุ่นอีกคนที่ถูกบังคับให้เป็นตัวกลางในการโอนเงิน จนนำไปสู่บัญชีที่เชื่อมโยงกับธุรกรรมกว่า 4.1 ล้านดอลลาร์ภายใต้หนังสือเดินทางของชาวไนจีเรีย ตำรวจอังกฤษสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้เมื่อเขาเดินทางถึงเมืองกิลด์ฟอร์ดในอังกฤษ ขณะนีกำลังรอการส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน

คริปโตครองเบอร์ 1 ควาของหารต้มตุ๋นบนโลกออนไลน์

การต้มตุ๋นคริปโตกลายเป็น สาเหตุหลักของการสูญเสียจากอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ตในสหรัฐฯ โดยในปี 2024 คนอเมริกันรายงานว่าถูกโกงจากคริปโตถึง 9,300 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นกว่าครึ่งหนึ่งของความเสียหายรวมทั้งหมด 16,600 ล้านดอลลาร์ จากอาชญากรรมไซเบอร์ในปีนั้น ตามข้อมูลของ FBI

ในขณะที่ช่วงครึ่งแรกของปี 2025 มีความเสียหายจากการแฮ็ก และการตุ้มตุ๋นรวมกันกว่า 2,470 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเกือบ 3% จากยอด 2,400 ล้านดอลลาร์ในปี 2024

การกู้คืนคริปโตที่ถูกขโมยมักต้องพึ่งพาความร่วมมือจากบริษัทในอุตสาหกรรม เช่น Coinbase และ Tether ที่ยอมรับว่าได้ช่วยตรวจสอบธุรกรรมและระงับวอลเล็ตในคดีใหญ่ ๆ

หนึ่งในคดีที่กู้คืนที่ได้มากที่สุดคือการกู้คืน USDT มูลค่า 225 ล้านดอลลาร์ 

ที่มา : Cointelegraph