<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

“ทักษิณ” ชงใช้ Bitcoin-Ethereum จ่ายผ่าน e-money ในไทย ดัน Sandbox ทั่วประเทศปีนี้

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในเวทีปาฐกถาพิเศษ “Unlocking Thailand’s Future – ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” ที่จัดขึ้น ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ส่งสัญญาณชัดถึงทิศทางเศรษฐกิจยุคใหม่ของไทย โดยชูการเปิดรับเทคโนโลยีและนวัตกรรมระดับโลก โดยเฉพาะ คริปโตเคอร์เรนซี ที่จะไม่ใช่แค่เครื่องมือการลงทุนอีกต่อไป แต่คือ “ช่องทางดึงเม็ดเงินสดจากต่างประเทศ” เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไทยโดยตรง

หนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือ แผนการเปิด Sandbox การใช้งานคริปโตในชีวิตจริงทั่วประเทศ ภายในเวลาเพียง 2-3 เดือนข้างหน้า โดยมีธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้ามามีบทบาทหลักในการกำกับดูแลผ่านระบบ e-money ที่ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการ เดิมที Sandbox ดังกล่าวถูกวางไว้ให้เริ่มต้นที่ภูเก็ต แต่ล่าสุดมีการขยายขอบเขตให้ครอบคลุมทั้งประเทศ

หากแผนนี้เกิดขึ้นจริง ผู้ถือเหรียญคริปโตยอดนิยมอย่าง Bitcoin และ Ethereum จะสามารถนำมาใช้จ่ายจริงกับร้านค้าได้ เช่น ในห้างสรรพสินค้าหรือร้านบริการต่าง ๆ โดยระบบจะทำการแปลงมูลค่าจากคริปโตเป็นเงินบาททันที ณ จุดขาย ซึ่งจะช่วยลดความกังวลเรื่องราคาผันผวนของเหรียญให้กับฝั่งร้านค้าได้โดยตรง

ดร.ทักษิณยังชี้ให้เห็นว่า ผู้ถือครอง Bitcoin จำนวนไม่น้อยคือกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและมีต้นทุนการลงทุนต่ำ หากประเทศไทยสามารถสร้างระบบที่เปิดรับการใช้จ่ายด้วยคริปโตได้ ก็เท่ากับเป็นการเปิดประตูรับ “กลุ่มทุนใหม่จากทั่วโลก” ที่พร้อมเข้ามาใช้จ่าย กระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างสภาพคล่องโดยไม่ต้องพึ่งพาหนี้หรือภาษีเพิ่มเติม

นอกจากคริปโตแล้ว ยังมีการกล่าวถึงแนวคิดการพัฒนาเมืองท่องเที่ยวให้เป็น Smart City โดยเน้นระบบกล้อง AI เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว พร้อมเสนอ “Golden Visa” สำหรับนักลงทุนต่างชาติที่ต้องการเข้ามาฝังรากในไทย โดยเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มเม็ดเงินในภาคอสังหาริมทรัพย์ การก่อสร้าง และฐานภาษีในระยะยาว

ทั้งหมดนี้คือภาพรวมของแนวคิดเศรษฐกิจที่ผสมผสาน Web3, Soft Power และ Digital Public Infrastructure เข้าด้วยกัน ซึ่ง ดร.ทักษิณ เชื่อว่าจะเป็นรากฐานใหม่ของการพาไทยฝ่าวิกฤติ และกลับมามีบทบาทบนเวทีโลกได้อีกครั้ง