SSK กองทุน Solana staking exchange-traded fund (ETF) จาก REX-Osprey ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญในตลาดทุนสหรัฐฯ ด้วยการระดมทุนจนมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) ทะลุ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐได้สำเร็จนับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา ความสำเร็จครั้งนี้ได้ตอกย้ำถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลของนักลงทุนสถาบันต่อผลิตภัณฑ์ที่สามารถสร้าง “ผลตอบแทน” (Yield) จากการ Staking ควบคู่ไปกับการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล
ความพิเศษของกองทุน SSK คือการเป็น ETF ที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ กองแรกที่มอบทั้งโอกาสในการลงทุนในราคาของ Solana (SOL) และผลตอบแทนจากการนำเหรียญไป Staking บนเครือข่าย ซึ่งความลับที่ทำให้สิ่งนี้เป็นไปได้คือการที่กองทุนได้จดทะเบียนภายใต้กฎหมาย Investment Company Act of 1940 แทนที่จะเป็น Securities Act of 1933 เหมือนกับกองทุนคริปโตอื่นๆ โครงสร้างทางกฎหมายนี้อนุญาตให้กองทุนสามารถ “จ่ายผลตอบแทนจากการ Staking ออกมาในรูปแบบที่คล้ายกับเงินปันผลได้” ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่น่าดึงดูดอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสร้างกระแสเงินสด ไม่ใช่แค่การเก็งกำไรจากราคาสินทรัพย์เพียงอย่างเดียว
นาย Greg King ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ REX-Osprey กล่าวว่าการเติบโตของกองทุน SSK แสดงให้เห็นถึงความต้องการของนักลงทุนสำหรับผลิตภัณฑ์การลงทุนที่มีรากฐานจากบล็อกเชน แต่ถูกนำเสนอในรูปแบบที่คุ้นเคย เขากล่าวในแถลงการณ์ว่า SSK กำลัง “เปิดประตูให้นักลงทุนกระแสหลักสามารถเข้าถึงพลังของการ Staking บน Solana ผ่านเปลือกหุ้มที่คุ้นเคยอย่าง ETF” และยังเปิดเผยกับ Cointelegraph ด้วยว่าบริษัทมีแผนที่จะขยายสายผลิตภัณฑ์ ETF ในลักษณะเดียวกันนี้ไปยังเหรียญอื่นๆ เช่น XRP, DOGE และ ETH เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าต่อไป
การมาถึงของ SSK เป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มที่ใหญ่ขึ้น นั่นคือการที่นักลงทุนสถาบันกำลังหันมาให้ความสนใจกับการสร้างผลตอบแทนผ่านการ Staking เพื่อเป็นทางเลือกหรือส่วนเสริมของการลงทุนในตราสารหนี้แบบดั้งเดิม ท่ามกลางภาวะที่อัตราดอกเบี้ยโลกเริ่มคงที่, การเติบโตของราคา Bitcoin เริ่มชะลอตัว และความชัดเจนด้านกฎระเบียบในสหรัฐฯ เริ่มก่อตัวขึ้น ผู้จัดการสินทรัพย์จึงกำลังมองหากลยุทธ์การสร้างผลตอบแทนจากคริปโตเพื่อเพิ่มผลกำไรให้กับพอร์ตการลงทุน
ความสำเร็จของ SSK อาจเป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับกองทุนอื่นๆ ที่กำลังจะตามมาในอนาคต โดยก่อนหน้านี้ในวันที่ 13 มิถุนายน Fidelity ก็ได้ยื่นเอกสารเพื่อขอจัดตั้ง Spot Solana ETF แล้ว เช่นเดียวกับบริษัทจัดการสินทรัพย์รายใหญ่อื่นๆ ทั้ง 21Shares, Franklin Templeton และ Grayscale แม้ว่าในปัจจุบันจะยังไม่มีกองทุน ETH ETF ใดที่ให้บริการ Staking แต่การบุกเบิกของ SSK ก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าภูมิทัศน์การลงทุนกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
ที่มา: cointelegraph