กองทุน Spot Ether ETF ของ BlackRock ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ให้กับวงการการเงิน ด้วยการก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในกองทุน ETF ที่เติบโตเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ เคียงข้างกับกองทุนคริปโตอีกสองกองทุน
นาย Eric Balchunas นักวิเคราะห์ ETF ของ Bloomberg ได้รายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า กองทุน iShares Ethereum ETF (ETHA) ของ BlackRock ได้กลายเป็นกองทุน ETF ที่สามารถระดมทุนจนมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) แตะระดับ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐได้เร็วที่สุดเป็นอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์ โดยใช้เวลาเพียง 251 วันนับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อหนึ่งปีที่แล้ว “น่าทึ่งมากที่ ETHA ใช้เวลาเพียง 10 วันในการเติบโตจาก 5 พันล้านดอลลาร์มาสู่ 1 หมื่นล้านดอลลาร์” Balchunas กล่าว พร้อมเรียกการพุ่งขึ้นครั้งนี้ว่าเป็น “แท่งเทียนแห่งพระเจ้า” (God candle)

ความสำเร็จครั้งนี้ทำให้ ETHA แซงหน้ากองทุนยักษ์ใหญ่จากโลกการเงินดั้งเดิมอย่าง JPMorgan Nasdaq Equity Premium Income ETF (JEPQ) ซึ่งใช้เวลาถึง 444 วันในการไปถึงจุดเดียวกัน นาย Nate Geraci ประธานของ NovaDius Wealth Management ได้ชี้ให้เห็นถึงปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนว่า “กองทุน ETF ที่เติบโตเร็วที่สุด 3 อันดับแรกในประวัติศาสตร์ ตอนนี้คือ Spot Crypto ETF ทั้งหมด” “เรากำลังพูดถึงอุตสาหกรรม ETF ที่มีมานานกว่า 3 ทศวรรษและมีผลิตภัณฑ์เกือบ 4,400 รายการ” เขากล่าวเสริม
อย่างไรก็ตาม แม้การเติบโตของ ETHA จะรวดเร็วอย่างน่าทึ่ง แต่ก็ยังคงตามหลังความสำเร็จแบบถล่มทลายของ Spot Bitcoin ETF จากค่ายเดียวกัน โดยกองทุน iShares Bitcoin Trust (IBIT) ซึ่งเปิดตัวเมื่อเดือนมกราคม 2024 ยังคงครองสถิติการเติบโตที่เร็วที่สุดตลอดกาล ด้วยการระดมทุนแตะ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ได้ในเวลาเพียง 34 วัน ตามมาด้วยกองทุน Wise Origin Bitcoin Fund (FBTC) ของ Fidelity ที่ทำได้ในเวลา 54 วัน
กระแสเงินทุนที่แข็งแกร่งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ตลาด Ether ETF กำลังร้อนแรงเป็นพิเศษ โดยข้อมูลจาก SoSoValue แสดงให้เห็นว่ากองทุน Ether ETF ในสหรัฐฯ มีเงินทุนไหลเข้าสุทธิติดต่อกันถึง 14 วัน รวมเป็นมูลค่ากว่า 4.4 พันล้านดอลลาร์นับตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม สวนทางกับฝั่ง Bitcoin ETF ที่เริ่มมีเงินทุนไหลออกในช่วงหลัง

ที่มา: cointelegraph

