<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ราคาเหรียญมีม-NFT พุ่ง อำลา Osbourne และ Hogan ตำนานสองวงการ

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

“Ozzy Osbourne” ตำนานนักร้องเมทัลจากวง Black Sabbath ได้เสียชีวิตลงด้วยวัย 76 ปี เช่นเดียวกันกับ Terry Bollea หรือที่คนรู้จักกันในนาม “Hulk Hogan” นักมวยปล้ำระดับตำนานอายุ 71 ปี ที่ต่างเสียชีวิตลงอย่างสงบในเวลาไล่เลี่ยกันส่งผลทำให้แฟนคลับโศกเศร้าเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตามราคาเหรียญมีมของที่ใช้ของไอคอนทั้งสองกลับพุ่งทะยานอย่างรุนแรงสวนทางตลาดคริปโต โดยรายงานเผยว่าเหรียญ Hulkmanaia (HULK) ได้พุ่งขึ้นอย่างแรงถึง 122,000% ในขณะที่เหรียญมีม The Mad Man (OZZY) พุ่งตามมากว่า 16,800%  

ทั้งนี้ เหรียญทั้งสองเป็นเหรียญที่เพิ่งถูกสร้างขึ้นมาใหม่และคาดว่าน่าจะไม่ใช่โปรเจกต์ทางการ ซึ่งช่วงหนึ่งเคยมีรายงานว่า Hulk hogan ได้ออกเหรียญมีมของตนเองเช่นกันแต่เจ้าตัวก็ได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้มีความเกี่ยวข้อง และโพสต์โปรโมตเกิดขึ้นมาจากบัญชี X ที่ถูกแฮ็ก

นอกเหนือจากเรื่องของเหรียญมีมแล้ว ทางฝั่งของเจ้าชายแห่งความมืดกลับมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องคริปโตอย่างคาดไม่ถึง เพราะตัวของ Osbourne เองได้เคยมีการออกคอลเลกชัน NFT ในชื่อของ “CryptoBatz” จำนวน 9,966 ชิ้น มาก่อนในช่วงที่กระแส NFT บูมถึงขีดสุด ซึ่งหลังจากที่เขาเสียชีวิตไปราคาของมันก็พุ่งขึ้นมาแล้วกว่า 400%

ในช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่ Osbourne เคยให้สัมภาษณ์ว่าเขาเคยขอร้องภรรยาให้ช่วยซื้อ NFT ลิงขี้เบื่อ (Bored Ape) เป็นของขวัญคริสต์มาสให้หน่อย แต่ก็ได้รับการปฏิเสธจนตัวเขาตัดสินใจออก NFT เอง

สำหรับสาเหตุที่ทำให้ NFT เป็นค้างคาว ก็เป็นการอ้างอิงถึงวีรกรรมในตำนานของ Ozzy Osbourne ได้กัดหัวค้างคาวในขณะแสดงสด จนกลายเป็นที่เล่าขานกันในวงการ ซึ่ง NFT นี้ก็มีลูกเล่นที่สามารถให้ค้างคาว “กัด” NFT ตัวอื่น และนำมาหลอมเป็นผลงานในชื่อ “MutantBatZ”

Osbourne ไม่เคยเปิดเผยว่า เขาทำรายได้ไปเท่าไรจากคอลเลกชันดังกล่าว แต่หากดูจากวอลุ่มการเทรดแล้วจะเห็นได้ว่าโปรเจกต์นั้นเข้าขั้นประสบความสำเร็จเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของตลาด NFT ในปัจจุบันยังคงซบเซาอย่างต่อเนื่องแม้ในระยะหลังจะมีผลงานบางชิ้นเริ่มกลับมาเป็นที่สนใจ เช่น Cryptopunk , Cryptorock หรือ CryptoBatz สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าถึงจะมีกระแสกลับมาแต่คนส่วนใหญ่ยังมองว่า NFT ได้กลายเป็นเรื่องในอดีตไปแล้ว

ที่มา : Beincrypto Cointelegraph