InternetX บริษัทรับจดทะเบียนโดเมนในเครือของ IONOS ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ด้านโฮสติ้ง ได้ประกาศแผนการครั้งประวัติศาสตร์ที่จะนำพอร์ตโฟลิโอโดเมนทั้งหมด 22 ล้านชื่อ เข้าสู่ระบบบล็อกเชนผ่านการทำ Tokenization โดยใช้ Doma Protocol ของ D3 การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่นี้อาจเป็นการปฏิวัติวงการอินเทอร์เน็ต ด้วยการปลดล็อกให้ “ชื่อโดเมน” แบบดั้งเดิมสามารถถูกซื้อขาย, แบ่งกันเป็นเจ้าของ (fractional ownership) และนำไปใช้ประโยชน์ในโลก Web3 ได้เหมือนกับสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ
ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ InternetX จะช่วยให้ลูกค้าและพันธมิตรสามารถแปลงชื่อโดเมนแบบดั้งเดิม (เช่น .com, .net) ให้อยู่ในรูปแบบของโทเคนบนบล็อกเชนได้ ซึ่งจะเปิดประตูไปสู่กรณีการใช้งานใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำได้มาก่อน เช่น การซื้อขายเก็งกำไรชื่อโดเมนบน Exchange คริปโต หรือการระดมทุนโดยใช้ชื่อโดเมนเป็นหลักประกัน นอกจากนี้ ลูกค้าของ InternetX ยังจะสามารถเข้าถึงช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ๆ ในโลก Web3 ผ่าน Doma Protocol ซึ่งมีความสามารถในการเชื่อมต่อไปยังบล็อกเชนชั้นนำอย่าง Solana, Base ของ Coinbase และ Avalanche ได้อีกด้วย
เทคโนโลยีบล็อกเชนได้ถูกนำมาใช้เพื่อ “จินตนาการใหม่” ให้กับระบบชื่อโดเมนมาสักระยะหนึ่งแล้ว โดยมีผู้เล่นที่โดดเด่นอย่าง Unstoppable Domains ซึ่งมุ่งเน้นการเปลี่ยนที่อยู่วอลเล็ตที่ซับซ้อนให้กลายเป็นชื่อที่มนุษย์สามารถอ่านได้ และ Ethereum Name Service (ENS) ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากการจดทะเบียนชื่อโดเมน “.eth” ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มการชำระเงินอย่าง PayPal และ Venmo ได้ การที่ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง InternetX ซึ่งมีฐานลูกค้าเป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและบริษัทโทรคมนาคม กระโดดเข้ามาร่วมวงในครั้งนี้ จึงเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าเส้นแบ่งระหว่างอินเทอร์เน็ตแบบดั้งเดิมและ Web3 กำลังจะเลือนหายไป
การแปลงชื่อโดเมนให้เป็นโทเคนนี้ ยังถือเป็นส่วนหนึ่งของกระแสที่ใหญ่กว่าและกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว นั่นคือการนำสินทรัพย์ในโลกแห่งความเป็นจริง (RWA) ขึ้นสู่ระบบบล็อกเชน ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าตลาดรวมกันแล้วกว่า 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ การเติบโตนี้ได้รับแรงหนุนจากการที่สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่หันมาให้ความสนใจ และบรรยากาศด้านกฎระเบียบที่เป็นใจมากขึ้น โดยนักวิเคราะห์มองว่าการผ่านกฎหมายอย่าง CLARITY Act และ GENIUS Act ในสหรัฐฯ จะยิ่งเป็นตัวเร่งให้เกิดการยอมรับ RWA Tokenization ในวงกว้างขึ้น ซึ่งไม่จำกัดอยู่แค่ในแวดวงการเงิน แต่อาจรวมถึงอสังหาริมทรัพย์, ทรัพย์สินทางปัญญา และล่าสุดคือ “ชื่อโดเมน” ที่เราใช้งานกันอยู่ทุกวัน
ที่มา: cointelegraph