Ripple บริษัทผู้อยู่เบื้องหลังเหรียญ XRP กำลังเผชิญกับคำถามครั้งใหญ่จากชุมชน หลังจากที่นาย Andrei Jikh ผู้ประกอบการออนไลน์ ได้ออกมาตั้งคำถามถึงความโปร่งใสและปริมาณธุรกรรมบน XRP Ledger (XRPL) ที่สวนทางกับคำกล่าวอ้างของบริษัท ประเด็นดังกล่าวได้ร้อนระอุขึ้นจนทำให้นาย David Schwartz ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี (CTO) ของ Ripple ต้องออกมาชี้แจงเป็นการด่วน โดยยอมรับว่าการยอมรับในระดับ On-chain นั้น “เป็นไปอย่างเชื่องช้ามาก” และสถาบันการเงินส่วนใหญ่ยังคงเลือกที่จะทำธุรกรรมแบบ “Off-chain”
ดราม่าครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อนาย Jikh ได้โพสต์ข้อกังวลหลายประการผ่าน X โดยตั้งคำถามถึงการที่ Ripple อ้างว่ามีพันธมิตรเป็นธนาคารกว่า 300 แห่ง แต่กลับไม่มีข้อมูลบนเชน (On-chain data) ที่สามารถตรวจสอบได้มายืนยันถึงปริมาณการใช้งานจริง คำถามที่ตรงไปตรงมานี้ได้ทำให้นาย Schwartz ต้องเข้ามาตอบทุกประเด็นเพื่อปกป้องแนวทางของบริษัท
“ผมคิดว่ามีเหตุผลหลายประการที่ในอดีตสถาบันต่างๆ เลือกที่จะใช้สินทรัพย์ดิจิทัลแบบ Off-chain มากกว่า On-chain” Schwartz เขียน เขายอมรับว่าแม้แต่ Ripple เองก็ยังไม่ได้ใช้ธุรกรรมแบบกระจายอำนาจบน XRP Ledger สำหรับการชำระเงินของตนเอง โดยให้เหตุผลว่ากังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย “เราไม่สามารถแน่ใจได้ว่าผู้ก่อการร้ายจะไม่เข้ามาเป็นผู้ให้สภาพคล่องสำหรับการชำระเงิน” เขากล่าว
คำชี้แจงนี้เกิดขึ้นในขณะที่ข้อมูลจากรายงานของ Ripple เองในไตรมาสที่ 1 ของปี 2025 ยอมรับว่ากิจกรรมบนเชนของ XRPL ได้ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ “มีการลดลง 30-40% ทั้งในส่วนของการสร้างวอลเล็ตใหม่และปริมาณธุรกรรมโดยรวมบน XRPL ซึ่งสอดคล้องกับการหดตัวของกิจกรรมที่เห็นได้บนบล็อกเชนหลักๆ อย่าง Bitcoin และ Ethereum” รายงานระบุ ขณะที่ข้อมูลจากแพลตฟอร์มอย่าง DefiLlama ก็แสดงให้เห็นว่ามูลค่าที่ล็อกไว้ (TVL) ในแอปพลิเคชัน DeFi บน XRP Ledger มีเพียง 81.8 ล้านดอลลาร์เท่านั้น

ซ้ำเติมความกังวลให้มากขึ้นไปอีก ในรายงานฉบับเดียวกัน Ripple ได้ประกาศว่าจะ “ยุติ” การเผยแพร่รายงาน XRP Markets Report ในรูปแบบปัจจุบันตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ของปี 2025 เป็นต้นไป “ในขณะที่รายงานกำลังมีการเปลี่ยนแปลง Ripple จะยังคงโปร่งใสและแบ่งปันข้อมูลอัปเดตที่เกี่ยวข้องต่อไปผ่านช่องทางอย่างเป็นทางการ” บริษัทกล่าว การตัดสินใจครั้งนี้ได้สร้างความกังขาให้กับชุมชนว่าอาจเป็นการลดทอนความโปร่งใสในช่วงเวลาที่กำลังถูกตั้งคำถามอย่างหนักหน่วง แม้ว่า Schwartz จะแสดงความเชื่อมั่นว่าแนวโน้มกำลัง “ใกล้จะเปลี่ยนแปลง” และสถาบันต่างๆ กำลังเริ่มมองเห็นประโยชน์ของการย้ายขึ้นสู่ระบบ On-chain แต่การออกมายอมรับว่าการยอมรับนั้นเป็นไปอย่าง “เชื่องช้ามาก” ก็ได้ตอกย้ำถึงความท้าทายครั้งใหญ่ที่ Ripple ยังคงต้องพิสูจน์ตัวเองต่อไป

ที่มา: cointelegraph

