ท่ามกลางกระแสเงินทุนที่ไหลออกจากกองทุน Ether ETF อย่างหนักหน่วง SharpLink บริษัทจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล กลับเดินหน้า “สวนกระแส” ตลาดอย่างเต็มกำลัง ด้วยการประกาศเข้าซื้อ Ether (ETH) เพิ่มเติมเป็นมูลค่ามหาศาลถึง 264.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะผลักดันให้ยอดการถือครอง ETH โดยรวมของบริษัทพุ่งทะยานเข้าใกล้ 2 พันล้านดอลลาร์ แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าสงครามการสะสม Ether ระหว่างบริษัทมหาชนยังคงร้อนระอุและไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ
ในประกาศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา SharpLink ระบุว่าบริษัทได้เข้าซื้อ 83,562 ETH ที่ราคาเฉลี่ย 3,634 ดอลลาร์ต่อเหรียญ ซึ่งทำให้ปัจจุบันบริษัทถือครอง ETH ทั้งสิ้น 521,939 ETH หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.91 พันล้านดอลลาร์ บริษัทยังได้เปิดเผยด้วยว่า ETH ทั้งหมดที่ถือครองอยู่นั้นถูกนำไป Staking เพื่อสร้างผลตอบแทน โดยล่าสุดบริษัทได้รับผลตอบแทนสะสมจากการ Staking แล้วถึง 929 ETH หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 3.3 ล้านดอลลาร์
การเข้าซื้อล็อตใหญ่นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เนื่องจากเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา กองทุน Spot Ether ETF เพิ่งจะเผชิญกับ “เงินทุนไหลออกสุทธิรายวันที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์” ถึง 465 ล้านดอลลาร์ โดยกองทุน ETHA ของ BlackRock ได้รับผลกระทบหนักที่สุดด้วยเงินไหลออกเกือบ 375 ล้านดอลลาร์ การตัดสินใจ “ช้อนซื้อ” สวนกระแสของ SharpLink จึงเป็นการตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นในระยะยาวที่บริษัทมีต่อ Ethereum
การเคลื่อนไหวครั้งนี้ยังเป็นการตอบโต้คู่แข่งคนสำคัญอย่าง BitMine Immersion Technologies โดยตรง หลังจากที่ BitMine เพิ่งจะประกาศเข้าซื้อ ETH เพิ่มเติมจนมียอดถือครองรวมสูงถึง 833,137 ETH แซงหน้า SharpLink ขึ้นเป็นผู้ถือครองรายใหญ่ที่สุดไปได้ไม่นาน สงครามการสะสม Ether เพื่อชิงตำแหน่ง “MicroStrategy แห่ง Ethereum” จึงยังคงเป็นสมรภูมิที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง และดูเหมือนว่าทั้งสองบริษัทจะยังไม่มีใครยอมใครในเร็วๆ นี้
ที่มา: cointelegraph