สำหรับนักลงทุนจำนวนมาก โลกของคริปโตเคอร์เรนซียังคงเป็นเหมือน “สนามเด็กเล่น” ที่เต็มไปด้วยศัพท์แสงทางเทคนิค, ความผันผวนที่น่าหวาดเสียว และหน้าตาโปรแกรมที่ชวนสับสน แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณสามารถลงทุนในตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกนี้ได้ โดยไม่ต้องเครียดกับการเทรดทุกวัน? คำตอบนั้นอยู่ในเครื่องมือการเงินที่คุ้นเคยกันดีอย่าง “กองทุนดัชนี” และ “ETF” ซึ่งกำลังถูกนำมาปรับใช้กับโลกคริปโต และอาจเป็นหนทางสู่ “อิสรภาพทางการเงิน” สำหรับนักลงทุนสาย Passive อย่างแท้จริง
ในโลกการเงินดั้งเดิม การลงทุนในกองทุนดัชนีอย่าง S&P 500 ถือเป็นกลยุทธ์มาตรฐานสำหรับการสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว และในปัจจุบันแนวคิดเดียวกันนี้ก็ได้ถูกนำมาสู่โลกคริปโตแล้ว กองทุนดัชนีคริปโตและ ETF ถูกออกแบบมาเพื่อมอบโอกาสให้นักลงทุนสามารถเข้าถึง “ตะกร้า” ของสกุลเงินดิจิทัลที่หลากหลายได้ในการลงทุนเพียงครั้งเดียว ซึ่งเป็นการกระจายความเสี่ยงโดยอัตโนมัติและขจัดความจำเป็นในการต้องคอยเลือก “ผู้ชนะ” เพียงรายเดียว
สร้างรายได้แบบ Passive ได้อย่างไร?
กองทุนเหล่านี้ไม่ได้ให้ผลตอบแทนแค่จากการเติบโตของราคา (Appreciation) ของสินทรัพย์ที่ถือครองอยู่เท่านั้น แต่ยังสามารถสร้าง “กระแสเงินสด” หรือรายได้แบบ Passive ได้จากอีกหลายช่องทาง
- Staking Rewards กองทุนที่มีการถือครองเหรียญประเภท Proof-of-Stake สามารถนำเหรียญไป Stake เพื่อรับผลตอบแทนเพิ่มเติมได้
- DeFi Yields สำหรับกองทุนดัชนีแบบกระจายอำนาจ (Decentralized Index Funds) สามารถนำสินทรัพย์ไปใช้ประโยชน์ในระบบนิเวศ DeFi เพื่อสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติมได้อีกทอดหนึ่ง
- Income Distributions กองทุน ETF บางประเภท โดยเฉพาะที่ใช้กลยุทธ์ Covered Call จะมีการจ่าย “เงินปันผล” ออกมาเป็นรายเดือนหรือตามรอบเวลาที่กำหนด
ตัวอย่างกองทุนที่น่าสนใจในปี 2025
ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจมากมายให้นักลงทุนได้เลือกสรร ตั้งแต่กองทุนดัชนีอย่าง Bitwise 10 (BITW) ที่ติดตาม 10 สกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุด หรือ TokenSets ที่มีดัชนี DeFi และ Metaverse ให้เลือกลงทุนบนเชนโดยตรง ไปจนถึงกองทุน ETF ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แบบดั้งเดิม เช่น ProShares Bitcoin Strategy ETF (BITO) ซึ่งเป็น Bitcoin Futures ETF กองแรกในสหรัฐฯ หรือกองทุนที่เน้นสร้างรายได้อย่าง Purpose Bitcoin Yield ETF (BTCY) และ Harvest Bitcoin and Ethereum Enhanced Income ETF (HBEE) ที่ใช้กลยุทธ์ Covered Call เพื่อสร้างกระแสเงินสดรายเดือนให้กับนักลงทุน
การมาถึงของเครื่องมือเหล่านี้จึงเป็นมากกว่าแค่การเพิ่มทางเลือกในการลงทุน แต่มันคือการ “ทลายกำแพง” ครั้งสำคัญที่ทำให้การลงทุนในคริปโตเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่าย, ปลอดภัย และน่ากลัวน้อยลงสำหรับทุกคน ในยุคที่เส้นแบ่งระหว่างการเงินดั้งเดิม (TradFi) และ DeFi กำลังเลือนหายไป การลงทุนในคริปโตก็อาจจะไม่ใช่เรื่องของการ “เทรด” ที่หวือหวาอีกต่อไป แต่คือการ “ออม” อย่างมีวินัยเพื่อการเติบโตในระยะยาว
การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูง ผู้ลงทุนโปรดศึกษาข้อมูลให้รอบคอบและใช้วิจารณญาณส่วนบุคคลประกอบการตัดสินใจลงทุน เนื้อหาในบทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น และมิได้มีเจตนาเป็นคำแนะนำในการลงทุน, การซื้อขาย, หรือการทำธุรกรรมใดๆ ทั้งสิ้น
ที่มา: cointelegraph

