ร่างกฎหมายวุฒิสภารัฐวิสคอนซิน ปี 2025 (Senate Bill 386) เสนอข้อบังคับใหม่ต่อผู้ใช้ Bitcoin ATM ที่เข้มงวดกว่ามาตรฐานเดิม โดยกำหนดให้ทุกธุรกรรมต้องทำ การยืนยันตัวตน (KYC) แบบเต็มรูปแบบ พร้อมใช้ บัตรประจำตัวที่มีรูปถ่าย และเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ อีกทั้งยังจำกัดวงเงินการทำธุรกรรมไว้สูงสุดเพียง 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 33,000 บาท) ต่อครั้ง
มาตรการนี้สะท้อนแนวทางการกำกับดูแลให้ธุรกรรมคริปโตใกล้เคียงกับระบบธนาคารดั้งเดิม ซึ่งสวนทางกับแนวคิดกระจายศูนย์ (Decentralized) ที่ซาโตชิ นากาโมโตะเคยวางไว้ใน White Paper ของ Bitcoin เมื่อปี 2008
แม้ก่อนหน้านี้หน่วยงานอย่าง FATF (Financial Action Task Force) เคยแนะนำให้ทำ KYC สำหรับแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตเพื่อป้องกันการฟอกเงิน แต่ร่างกฎหมายวิสคอนซินกำหนดวงเงินต่ำกว่ามาตรฐานหลายพื้นที่ที่มักตั้งไว้ราว 3,000 ดอลลาร์ ทำให้ผู้ใช้รายย่อยอาจรู้สึกถูกจำกัด และเพิ่มภาระต้นทุนการปฏิบัติตามกฎหมายให้กับผู้ให้บริการ ATM คริปโต ตามรายงาน Coin ATM Radar ปี 2023
ร่างกฎหมายนี้เกิดขึ้นในจังหวะที่หลายประเทศเข้มงวดกับคริปโตมากขึ้น เช่น กฎ MiCA ของสหภาพยุโรปที่เริ่มบังคับใช้ในปี 2024 และข้อเสนอในสหรัฐฯ อย่าง Clarity for Payment Stablecoins Act นักวิเคราะห์มองว่ากรณีของวิสคอนซินอาจเป็น “สนามทดสอบ” ของมาตรการเฝ้าระวังการไหลออกของเงินทุนจากระบบการเงินแบบเดิม ซึ่งกระทบต่อจุดขายด้านความเป็นส่วนตัวที่เคยทำให้ Bitcoin ได้รับความนิยมในยุคแรก
ที่มา : X

