SharpLink Gaming แพลตฟอร์มด้านสปอร์ตเบทติ้ง ได้สร้างความฮือฮาด้วยการเดินเกมที่สวนกระแสและเต็มไปด้วยความเสี่ยง ด้วยการเข้าซื้อเหรียญ Ether จำนวนมหาศาลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในช่วงเวลาที่ราคากำลังพุ่งขึ้นใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
จากเอกสารที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) เมื่อวันอังคาร SharpLink ได้เข้าซื้อ Ether (ETH) เพิ่มจำนวนถึง 143,593 ETH ในขณะที่ราคา ETH ไต่ระดับขึ้นไปเหนือ 4,700 ดอลลาร์ การเข้าซื้อครั้งล่าสุดของ SharpLink นี้เกิดขึ้นที่ระดับราคาเกือบสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีราคาซื้อเฉลี่ยอยู่ที่ 4,648 ดอลลาร์ต่อ ETH คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 667.4 ล้านดอลลาร์ การซื้อครั้งนี้ทำให้ยอดการถือครอง Ether ของ SharpLink เพิ่มขึ้นเป็น 740,760 ETH ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 3.2 พันล้านดอลลาร์ตามราคาตลาดปัจจุบัน
สิ่งที่น่าสนใจคือ SharpLink ไม่ได้แค่ซื้อมาเก็บไว้เฉยๆ แต่ยังได้นำสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้ไปสร้างผลตอบแทนต่ออีกด้วย โดยบริษัทได้ประกาศว่าสามารถสร้างผลตอบแทนจากการ Staking เป็นจำนวน 1,388 ETH ซึ่งหมายความว่าบริษัทได้นำ ETH ที่ถือครองไปมีส่วนร่วมในฐานะผู้ตรวจสอบธุรกรรม (validator) บนเครือข่าย Proof-of-Stake (PoS) ของ Ethereum
“ณ วันที่ 17 สิงหาคม 2025 สินทรัพย์ ETH ที่ถือครองเกือบทั้งหมดได้ถูกนำไปใช้ในการ Staking รวมถึงผ่านบริการ Liquid Staking ด้วย” SharpLink กล่าวในเอกสารที่ยื่นต่อ SEC พร้อมเสริมว่า “เราทราบดีว่ากิจกรรมการ Staking ของเราอาจอยู่ภายใต้กฎระเบียบและแนวทางของภาครัฐซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้”
การตัดสินใจทุ่มเงินซื้อครั้งใหญ่นี้เกิดขึ้นในจังหวะที่น่าจับตา เพราะมันเกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่ SharpLink เพิ่งรายงานผลขาดทุนสุทธิถึง 103 ล้านดอลลาร์สำหรับไตรมาสที่สองของปี 2025 ซึ่งส่วนสำคัญเกิดจากการขาดทุนทางบัญชีที่เกี่ยวข้องกับ Liquid Staked Ether (LsETH) และดูเหมือนว่าตลาดหุ้นจะไม่ค่อยเห็นด้วยกับการเดินเกมนี้เท่าไหร่นัก โดยราคาหุ้นของ SharpLink ได้ตอบสนองต่อข่าวดังกล่าวด้วยการร่วงลง 12% ในวันศุกร์ และปิดตลาดในวันจันทร์ที่ราคา 20.10 ดอลลาร์ ซึ่งลดลงไปถึง 13.5% ในช่วงห้าวันที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม การเข้าซื้อ Ether ของ SharpLink ดูเหมือนจะเป็นส่วนหนึ่งของกระแสการเข้าซื้อ ETH ของนักลงทุนสถาบันครั้งใหญ่ที่กำลังเกิดขึ้น โดยกองทุน Spot Ether ETF มีเงินทุนไหลเข้าสูงถึง 3.7 พันล้านดอลลาร์ในช่วงระหว่างวันที่ 5 สิงหาคมถึงวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
BitMine ซึ่งเป็นคู่แข่งรายใหญ่ที่สุดของ SharpLink ในด้านการถือครอง ETH ก็ได้รายงานการเข้าซื้อ 373,000 Ether เมื่อวันจันทร์ ทำให้ยอดการถือครองทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 1.52 ล้าน ETH ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 6.6 พันล้านดอลลาร์
Thomas Lee ประธานบอร์ดของ BitMine ถึงกับกล่าวว่าการซื้อครั้งใหม่นี้ทำให้ BitMine กลายเป็นบริษัทที่ถือครองคริปโตมากเป็นอันดับสองของโลก รองจาก MicroStrategy (Strategy) ของ Michael Saylor เท่านั้น ซึ่งหลังจากที่ MicroStrategy รายงานการเข้าซื้อ Bitcoin (BTC) เพิ่มเติมอีก 51.4 ล้านดอลลาร์เมื่อวันจันทร์ ทำให้ ณ วันอาทิตย์ที่ผ่านมา บริษัทถือครอง BTC ทั้งหมด 629,376 BTC ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 72.7 พันล้านดอลลาร์ตามราคาตลาดปัจจุบัน