ตลอดช่วงเดือนที่ผ่านมา Ethereum ได้ทำศักยภาพอันน่าตกใจแซงหน้าพี่ใหญ่บิตคอยน์อย่างเห็นได้ชัด เห็นได้จากกระแสต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นพร้อมกันไม่ว่าจะเป็น ETF หรือ การตั้งคลังสำรอง
รายงานจาก JPMorgan ระบุว่า กองทุน ether ETFs มีเงินไหลเข้าในเดือนกรกฏาคมกว่า $5.4 พันล้าน ซึ่งเป็นจำนวนที่แทบจะใกล้เคียงกับฝั่งของ Bitcoin สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าความสนใจของนักลงทุนเริ่มถูก Ethereum ดึงดูดเข้าหา ซึ่งพวกเขายังได้สรุปถึง 4 ปัจจัยที่ทำให้ Ethereum แซงหน้า Bitcoin
1. Staking
ปัจจัยแรกที่หนุนให้ ETH แกร่งได้ขนาดนี้คือความคาดหวังของนักลงทุนที่เชื่อมั่นว่า SEC จะอนุญาตให้สามารถทำการ staking ตัวของกองทุน ether ETFs ได้ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะจะทำให้กองทุนดังกล่าวสามารถสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติมจากการถือครอง
2. ความต้องการที่สูงขึ้น
ถัดมา JPMorgan ได้ชี้ให้เห็นถึงความต้องการของเหรียญที่พุ่งสูงขึ้นจากฝั่งของบริษัทเอกชนที่ได้ทยอยกว้านซื้อ Ethereum อย่างบ้าคลั่งถึงขนาดแค่ 10 บริษัทใหญ่ในตลาดหุ้นตอนนี้ ได้ถือครองอุปทานหมุนเวียนของ ETH แล้วกว่า 2.3%
3. การจัดหมวดหมู่
ขณะเดียวกัน SEC ยังได้ส่งสัญญาณว่า โทเคนที่ได้รับจากการ liquid-staking อาจไม่นับเป็นหลักทรัพย์ ช่วยลดความกังวลจากนักลงทุนสถาบันได้เป็นอย่างมาก
4. การแปลงหุ้น
ประการสุดท้ายคือ การอนุญาตให้สามารถทำการแปลงหุ้นของ ETF เป็น Ethereum ได้ตรง ๆ ซึ่งจะสามารถลดแรงขายและเพิ่มสภาพคล่องให้ตลาดได้
ทั้งนี้ JPMorgan เชื่อมั่นว่าทั้งกองทุน ETFs และบริษัทต่าง ๆ จะมีการสะสม Ethereum มากขึ้นกว่าเดิมในอนาคต
ที่มา : Coindesk

