นักวิเคราะห์จาก JPMorgan ประเมินว่า บิตคอยน์ ( Bitcoin) ยังมีมูลค่าต่ำกว่าความเป็นจริง เมื่อเทียบกับทองคำ ซึ่งปัจจุบัน ราคาบิตคอยน์ (Bitcoin)ยังถือว่าถูกอยู่
การคาดการณ์ล่าสุดระบุว่า ราคาบิตคอยน์ อาจกลับไปแตะระดับ 126,000 ดอลลาร์ ได้ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูง เนื่องจากยังเหลือเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดคริปโตมักจะมีความแข็งแกร่งที่สุด และแรงหนุนสำคัญอาจมาจากการเปิดตัว Bitcoin Hyper (HYPER) ซึ่งเป็น Layer-2 ที่เร็วที่สุดในปัจจุบัน
Bitcoin Hyper เป็นอีกหนึ่งเหรียญ ที่น่าจับตามองของโปรเจกต์ระดมทุนในช่วงเริ่มต้น เนื่องจากสามารถผสานความปลอดภัยระดับสูงของ Bitcoin เข้ากับความเร็วของ Solana และค่าธรรมเนียมที่ต่ำได้ ทำให้เกิดระบบนิเวศใหม่สำหรับแอปพลิเคชันไฮบริดที่ต้องการทั้งความเสถียรและความสามารถในการขยายตัวในระดับใหญ่ ซึ่งกำลังดึงดูดความสนใจจากนักพัฒนาเป็นอย่างมาก
โดยนักพัฒนาสามารถเปิดตัว dApp ที่เร็วและปลอดภัยที่สุดในโลกคริปโตได้ ซึ่งกำลังได้รับความสนใจอย่างมากจากตลาด
ขณะนี้มีเงินลงทุนไหลเข้าสู่ โปรเจกต์ระดมทุนในช่วงเริ่มต้นแล้วเกือบ 13 ล้านดอลลาร์ ทำให้ Bitcoin Hyper กลายเป็นหนึ่งในโปรเจกต์ระดมทุนช่วงเริ่มต้นที่ร้อนแรงที่สุดของปี 2025 โดยราคาโทเค็นปัจจุบันอยู่ที่ 0.012825 ดอลลาร์ แต่ราคานี้จะสิ้นสุดลงภายใน 2 วัน ก่อนที่ราคาจะปรับเพิ่มขึ้นในเฟสถัดไป
JPMorgan ยังคงจัดให้ Bitcoin อยู่ในหมวดสินทรัพย์เพื่อเก็บมูลค่า แต่แรงขับเคลื่อนความต้องการรอบใหม่ อาจมาจากการใช้งานในเชิงยูทิลิตี้
นักวิเคราะห์จาก JPMorgan ได้ทำการเปรียบเทียบราคาบิตคอยน์ (Bitcoin) กับทองคำ โดยชี้ให้เห็นว่า ความผันผวนของบิตคอยน์ ลดลงอย่างเห็นได้ชัดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ด้วยเหตุนี้ นักวิเคราะห์จึงมองว่า บิตคอยน์ยังถูกประเมินราคาต่ำเกินไป เมื่อเทียบกับทองคำ และคาดการณ์ว่า ราคาบิตคอยน์อาจพุ่งขึ้นไปแตะระดับ 126,000 ดอลลาร์ ได้ภายในสิ้นปีนี้
มุมมองดังกล่าวตอกย้ำบทบาทของบิตคอยน์ ในฐานะสินทรัพย์เก็บมูลค่า เนื่องจากเหรียญบิตคอยน์จำนวนมากถูกล็อกไว้ในกองทุนของบริษัทต่าง ๆ ขณะเดียวกันการที่บิตคอยน์ ได้รับการบรรจุในดัชนีต่าง ๆ ก็ช่วยดึงดูดเงินลงทุนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทั้งสองปัจจัยนี้ ช่วยลดปริมาณเหรียญในตลาดเปิดลงอย่างมาก และส่งผลดีต่อราคาบิตคอยน์ในระยะยาว
ด้วยอัตราส่วนความผันผวนของบิตคอยน์ต่อทองคำที่ลดลงเหลือเพียง 2.0 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ ทำให้ความแตกต่างด้านความเสี่ยงระหว่างสินทรัพย์ทั้งสองน้อยลงอย่างไม่เคยมีมาก่อน
หากบิตคอยน์จะต้องแข่งขันกับทองคำในพอร์ตการลงทุนอย่างเต็มตัว มูลค่าตลาดของบิตคอยน์ จำเป็นต้องเพิ่มขึ้นประมาณ 13% หรือเทียบเท่ากับมูลค่าที่เหมาะสมที่ประมาณ 126,000 ดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม แม้มุมมองที่มองว่า บิตคอยน์เป็นเพียง “ทองคำดิจิทัล” จะสามารถช่วยผลักดันราคาบิตคอยน์ ให้ไปถึงเป้าหมายดังกล่าวได้ แต่ปัจจัยที่จะทำให้ราคาพุ่งทะลุเกิน 126,000 ดอลลาร์ไปสู่เป้าหมายที่สูงขึ้นถึง 200,000 ดอลลาร์ คือการที่ Bitcoin ไม่ได้ถูกมองว่า เป็นเพียงสินทรัพย์เก็บมูลค่าอีกต่อไป แต่กลายเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการใช้งานจริง
และนี่คือบทบาทที่ Bitcoin Hyper ถูกออกแบบมาเพื่อเติมเต็ม โดยเป็นโซลูชัน Layer-2 ที่จะช่วยเร่งให้บิตคอยน์ ก้าวไปสู่มูลค่าที่แท้จริง และเปิดยุคใหม่ของการใช้งานอย่างเต็มรูปแบบ
แนวทางที่ Bitcoin Hyper ทำให้บิตคอยน์สร้างประโยชน์ได้จริง
Bitcoin Hyper กำลังเปลี่ยนบิตคอยน์จากสินทรัพย์ที่ถูกเก็บไว้เฉยๆ ให้กลายเป็นสกุลเงินที่ใช้งานได้จริง โดยเชื่อมโยงทั้งสองโลกเข้าด้วยกัน ผ่านกลไกที่ทำให้ Bitcoin สามารถทำงานบนเครือข่ายที่รวดเร็วขึ้นได้
ผู้ใช้งานสามารถล็อกบิตคอยน์บนเลเยอร์ 1 ผ่าน Canonical Bridge เพื่อสร้าง เวอร์ชันห่อ (wrapped version) ของ Bitcoin บนระบบนิเวศของ Hyper ซึ่งสินทรัพย์เหล่านี้ จะสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วผ่าน Solana Virtual Machine (SVM)
ในขณะเดียวกันความถูกต้องของธุรกรรมก็จะถูกยืนยัน และยึดสถานะกลับไปยังบล็อกเชนหลักของบิตคอยน์ ทำให้เกิด “เส้นทางการตรวจสอบ” ที่ไม่สามารถแก้ไขได้ และได้รับการคุ้มครองด้วยกลไก Proof-of-Work อันทรงพลังของบิตคอยน์
วิธีการนี้ช่วยให้ Bitcoin ยังคงรักษาความน่าเชื่อถือ และความปลอดภัยที่แข็งแกร่งไว้ได้ พร้อมกับสามารถรองรับการทำงานของสัญญา Smart Contract ได้เกือบจะในทันทีและในระดับที่ใหญ่ ซึ่งบล็อกเชนหลักไม่สามารถทำได้

ผลลัพธ์ที่ได้คือ ระบบเศรษฐกิจที่มีชีวิตชีวา ซึ่งบิตคอยน์สามารถถูกนำไปใช้ขับเคลื่อนโปรโตคอล DeFi, การชำระเงินความเร็วสูง, แพลตฟอร์ม NFT, แอปพลิเคชันเกม, และแอปพลิเคชันสำหรับผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง แทนที่จะถูกเก็บไว้เฉย ๆ ในกองทุน
ทุกการใช้งานเหล่านี้จะช่วยสร้างความต้องการให้กับเครือข่ายบิตคอยน์ ในขณะที่โทเค็น HYPER จะทำหน้าที่เป็นค่าธรรมเนียม (Gas), การ stake, การกำกับดูแล, และเป็นกลไกในการสนับสนุนการเติบโตของระบบนิเวศ
และเมื่อผู้ใช้งานต้องการนำบิตคอยน์ กลับคืนสู่เชนหลัก ก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่ เผา (Burn) เวอร์ชันห่อ ก็จะสามารถปลดล็อกบิตคอยน์ กลับไปยังบล็อกเชนหลักได้ทันที
นักลงทุนมอง HYPER ว่าใกล้เคียงกับช่วงขาขึ้นรอบแรกของบิตคอยน์มากที่สุด
การเปลี่ยนแปลงที่ Bitcoin Hyper กำลังจะสร้างขึ้น ทำให้หลายคนในวงการมองว่าเป็นโปรเจกต์ที่ยิ่งใหญ่ โดยบางคนถึงกับเปรียบเทียบศักยภาพของมันกับช่วงเริ่มต้นของบิตคอยน์ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยมีราคาเพียงเศษเหรียญเท่านั้น
ในขณะนี้ มีเงินลงทุนเกือบ 13 ล้านดอลลาร์ ไหลเข้าสู่โปรเจกต์ระดมทุนในช่วงเริ่มต้น อย่างต่อเนื่อง โดยนักลงทุนในช่วงแรกกำลังเร่งจองสิทธิ์ก่อนที่ HYPER จะเข้าสู่ตลาดและกลายเป็นจุดสนใจหลัก
นอกจากนี้ ยังมีเสียงสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญในวงการอย่าง Crypto Gains ยูทูบเบอร์ที่มีผู้ติดตาม 149,000 คน ได้เน้นย้ำถึงโอกาสการเติบโตของ HYPER
ขณะที่ 99Bitcoins ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการศึกษาคริปโตที่น่าเชื่อถือ ยังได้ระบุว่า โปรเจกต์นี้อาจให้ผลตอบแทน ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด
สัญญาณบ่งชี้ชัดเจนว่า ความต้องการในตลาดกำลังพุ่งสูงขึ้น ซึ่งอาจทำให้ HYPER กลายเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญในการใช้งาน Bitcoin ได้ในอนาคต
ครั้งหนึ่ง Bitcoin เคยมีราคาต่ำกว่าหนึ่งดอลลาร์ หากคุณพลาดโอกาสนั้นไปแล้ว ก็อย่าปล่อยให้โทเค็นที่มีศักยภาพผ่านไปอีกเป็นครั้งที่สอง
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถไปที่เว็บไซต์ Bitcoin Hyper เพื่อเข้าร่วมกับโทเค็น ในขณะที่รอบปัจจุบัน ก็ยังเปิดอยู่ โดยเชื่อมต่อกับกระเป๋าที่ได้รับการรับรองจาก WalletConnect อย่าง Best Wallet ที่จะช่วยทำให้การเข้าร่วมเป็นเรื่องง่าย
โดบ Best Wallet ถือเป็นหนึ่งในกระเป๋าคริปโตที่ดีที่สุด ที่คุณสามารถเข้าถึงโทเค็นได้โดยตรง พร้อมดู HYPER ในหมวด Upcoming Tokens ทำให้การเข้าร่วม ติดตาม และเคลมโทเค็นเมื่อเปิดตัว ทำได้ง่ายขึ้น
สามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากชุมชนได้ทาง Telegram และ X
หากสนใจโปรเจกต์สามารถเข้าไปศึกษา Bitcoin Hyper เพิ่มเติม ได้แล้ว
| เช็คลิสต์ | รายละเอียด | สถานะ |
|---|---|---|
| 1. เว็บไซต์ & Whitepaper | โปรเจกต์มีเว็บไซต์ที่ดูน่าเชื่อถือ และมีเอกสาร Whitepaper ที่ระบุข้อมูลชัดเจนไม่กำกวม | ✔️ |
| 2. ความโปร่งใสของทีมงาน | ทีมพัฒนามีการเปิดเผยตัวตนชัดเจนไม่ได้ปกปิดข้อมูลแต่อย่างใด | ❌ |
| 3. Tokenomics | เหรียญมีการแจกแจงการปันส่วนที่สมเหตุผล และฝ่ายใดถือครองจนมากเกินไป | ✔️ |
| 4.Smart Contract | Smart contract มีความโปร่งใสและถูกตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีการใส่โค้ดแอบแฝงเพื่อโจมตีนักลงทุน | ✔️ |
| 5. มีกำหนดการชัดเจน | โปรเจกต์มีการกำหนดวันสิ้นสุดการระดมทุนพรีเซล รวมถึงวันลิสต์เหรียญอย่างชัดเจน | ❌ |
| 6. ผู้ใช้สามารถถอนเงินได้ | กรณีเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดขึ้น นักลงทุนยังคงสามารถทำการถอนเงินคืนได้ | ⚠️ (ไม่ชัดเจน) |
| 7. คอมมูนิตี้ | โปรเจกต์มีชุมชนคอยให้การสนับสนุนจริง ไม่ได้ถูกรันด้วยบอทเพียงอย่างเดียว | ✔️ |
| 8. สภาพคล่อง | โปรเจกต์มีการล็อกสภาพคล่องเพื่อระงับไม่ให้เกิดการ Rug pull ขึ้น | ❌ |
| 9. สัญญาณอันตราย | โปรเจกต์ไม่มีสัญญาณอันตราย เช่น การระดมทุนจะสิ้นสุดเมื่อราคาถึงระดับ XXX เป็นต้น | ⚠️ (ไม่ชัดเจน) |
| อ่านรายละเอียดเช็คลิสต์เพิ่มเติมได้ที่นี่ | ||
บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์คริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุนคริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ โปรดศึกษาข้อมูลให้รอบคอบและลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่ท่านยอมรับได้ ทาง Siam Blockchain รวมถึงผู้บริหารและพนักงานของบริษัท ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบในทุกกรณีหากเกิดความเสียหายจากการลงทุนของท่าน
บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์

