ข้อมูล on-chain ล่าสุดกำลังกลายเป็นที่พูดถึงในวงการคริปโตอย่างกว้างขวาง เมื่อมีการเปิดเผยว่าเพียง 10 กระเป๋าใหญ่กำลังถือครอง Ethereum ($ETH) มากกว่า 50% ของซัพพลายทั้งหมด เท่ากับว่าครึ่งหนึ่งของเหรียญที่หมุนเวียนอยู่ในตลาดจริง ๆ ถูกควบคุมโดยผู้เล่นไม่กี่รายเท่านั้น

ไม่ใช่แค่ Ethereum เท่านั้นที่มีการกระจุกตัวแบบนี้ แต่เหรียญดังใน ecosystem อย่าง Shiba Inu ($SHIB) และ Uniswap ($UNI) ก็ถูกพบว่ามีเจ้ามือรายใหญ่ถืออยู่ในสัดส่วนสูงเช่นกัน เรื่องนี้ทำให้หลายคนเริ่มตั้งคำถามว่า เครือข่ายที่เคยถูกยกให้เป็น “กระจายอำนาจ” อย่างแท้จริง อาจไม่ได้กระจายตัวเท่าที่คิด
ประเด็นใหญ่คือ การที่ supply ส่วนมากอยู่ในมือเพียงไม่กี่กระเป๋า หมายความว่าความเคลื่อนไหวของเจ้ามือเหล่านี้สามารถสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อตลาดได้มากกว่าผู้ใช้งานทั่วไปหลายเท่า การโอนเข้า–ออกกระเป๋าเพียงครั้งเดียว อาจทำให้ราคาเหรียญผันผวนรุนแรง และสร้างกระแสตลาดที่นักลงทุนรายย่อยไม่สามารถควบคุมได้
แม้ Ethereum จะเปลี่ยนระบบเป็น Proof-of-Stake (PoS) เพื่อหวังให้การตรวจสอบและการถือครองมีการกระจายอำนาจมากขึ้น แต่ข้อมูลที่เห็นก็สะท้อนว่า “การกระจุกตัว” ยังเป็นปัญหาที่แก้ได้ยากในโลกคริปโต ยิ่งเมื่อเจ้ามือรายใหญ่ถือเหรียญไว้ในปริมาณมาก พวกเขายิ่งมีอำนาจต่อทิศทางราคาและสภาพคล่องของตลาด
สิ่งนี้ไม่ใช่การบอกว่า Ethereum หรือเหรียญอื่น ๆ กำลังล้มเหลว แต่เป็นการเตือนให้นักลงทุนมองให้ลึกกว่าแค่ราคาหน้ากราฟ เพราะโครงสร้างการถือครองจริง ๆ บน blockchain ก็เป็นตัวแปรสำคัญที่กำหนดเสถียรภาพของตลาดได้เช่นกัน การจับตา on-chain data จึงไม่ใช่แค่สำหรับนักวิเคราะห์มืออาชีพ แต่เป็นเรื่องที่นักลงทุนทุกคนควรให้ความสำคัญ
ที่มา: @coinbureau

