ในวันที่ตลาดคริปโตเต็มไปด้วยคำถามที่คาใจนักลงทุนแทบทุกคนคือ “ขาขึ้นรอบนี้จบลงแล้วหรือยัง?”เสียงวิเคราะห์ดังไปทั่วทั้งกลุ่มนักเทรดและโซเชียล แต่หากจะฟังจากคนที่อยู่ในสนามจริงมานาน คงไม่มีใครเหมาะไปกว่า คุณ ‘นเรศ เหล่าพรรณราย’ นายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย และผู้ก่อตั้ง RICCO
สำหรับคนที่ยังไม่ทราบ คุณนเรศก้าวเข้าสู่วงการคริปโตตั้งแต่ปี 2017 ในยุคที่ ICO กำลังเฟื่องฟู ผ่านประสบการณ์ทั้งช่วงรุ่งโรจน์และขาลงมาตลอดกว่า 8 ปี ก่อนหน้านั้น เขาคลุกคลีอยู่กับโลกการเงินแบบดั้งเดิมใน Fintech จึงไม่เกินเลยที่จะบอกว่า คุณนเรศเป็นนักลงทุนที่มองเห็นทั้งโลกเก่าและโลกใหม่อย่างชัดเจน
เมื่อเขาถูกถามว่า ตลาดกระทิงรอบนี้ จบลงหรือยัง คุณนเรศตอบอย่างชัดเจนว่า “ถ้าตอบแบบสั้นๆ ยังไม่จบครับ” โดยเขาบอกว่าถ้าอ้างอิงจากสถิติในอดีต ตลาดกระทิงรอบนี้ควรจะไปจบลงราวเดือนตุลาคม แต่ส่วนตัวเขามองว่า ตลาดกระทิงของคริปโตจะไปจบลงในปีหน้า
สิ่งสำคัญที่คุณนเรศอยากบอกคือ Bitcoin Cycle ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว จากเดิมทุก 4 ปีจะมีการแบ่งเป็น ช่วงที่เริ่มเป็นขาขึ้น 2 ปี ซึ่งในนั้นจะมีตลาดกระทิงอีก 1 ปีหลังจากเกิด Halving และปิดท้ายด้วยปีหมีและปีช่วงสะสม แต่ตอนนี้โมเดลนี้ใช้ไม่ได้แล้ว เหตุผลหลักคือ Supply ของ BTC จากการขุดเหลือน้อยมากแล้วในปัจจุบัน ส่งผลให้ปัจจัยฝั่ง Demand จึงมีบทบาทสำคัญกว่าเดิม และที่สำคัญคือ นักลงทุนสถาบันเข้ามาเป็นผู้เล่นรายใหม่ ที่เปลี่ยนสมการทั้งหมดของตลาด
เมื่อพูดถึง Ethereum คุณนเรศชี้ให้เห็นว่า ขาขึ้นรอบแรกของ ETH เกิดขึ้นใกล้เคียงกับวันอัพเกรดเครือข่าย Pectra แต่จุดที่ ETH พุ่งขึ้นอย่างบ้าคลั่งจริงๆ คือวันที่มีการประกาศกฎหมาย Genius Act ที่อนุญาตให้ทำ Stablecoin ได้
ความสำคัญของเรื่องนี้อยู่ตรงที่ Ethereum ครองส่วนแบ่งตลาด Stablecoin บนเชนมากถึง 60% นั่นหมายความว่า หากมี Stablecoin ตัวใหม่ๆ ถูกสร้างขึ้นและมีการใช้งานเพิ่มขึ้น ความต้องการใช้งานเชน Ethereum ก็จะเพิ่มตามไปด้วย
นักลงทุนสถาบันมองเห็นโอกาสนี้ และเริ่มเข้ามาลงทุนใน Ethereum อย่างจริงจัง เพราะเชื่อว่าจะมีการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลในอนาคต
ในมุมมองเชิงเทคนิคัล คุณนเรศชี้ว่าแนวรับสำคัญของ ETH อยู่ที่ $4,000 ซึ่งเป็นช่วงที่กราฟเริ่มฟอร์มตัว Cup & Handle ขึ้นมา และเป็นแนวรับสำคัญที่หากร่วงลงมาแล้วไม่ทำให้ภาพใหญ่เสีย
สำหรับเป้าหมายการขึ้น เป้าแรกอยู่ที่ $8,000 ส่วนเป้าที่สองอยู่ที่ $10,000-$12,000 ตามการคำนวณด้วย Fibonacci คุณนเรศอธิบายเสริมว่า การลงทุนในโลกคริปโตจำเป็นต้องใช้ความรู้ด้านเทคนิคัลเข้ามาช่วย เพราะตลาดคริปโตไม่มีงบการเงินที่ชัดเจนเหมือนตลาดหุ้นแบบดั้งเดิม
และทั้งหมดนี้คือมุมมองจาก คุณนเรศ เหล่าพรรณราย ที่เปิดเผยให้เห็นถึงภาพใหญ่ของตลาดคริปโตที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป
แต่หากคุณต้องการเรียนรู้เทคนิคส่วนตัวในการลงทุนของคุณนเรศ ซึ่งรวมถึงเคล็ดลับ 5 ข้อที่เขาใช้ในการวิเคราะห์และลงทุนในคริปโต ห้ามพลาด! คุณสามารถติดตาม บทสรุปสุดพิเศษ ได้ในช่อง YouTube ของ Siamblockchain ในรายการ “คริปโตหลังไมค์” ที่จะเผยแพร่เร็วๆ นี้