เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Bitcoin (BTC) มีการเคลื่อนไหวที่ค่อนข้างจำกัด โดยราคาขยับขึ้นเพียง 0.6% และยังคงซื้อขายอยู่ที่ระดับ 111,940 ดอลลาร์ในขณะที่รายงาน แต่ถึงแม้ตลาดจะดูนิ่งเงียบ นักวิเคราะห์ชื่อดังบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X กลับมองว่า ราคาของ BTC อาจพุ่งสูงไปถึง 190,000 ดอลลาร์ได้ในอนาคตอันใกล้นี้
ซึ่งปัจจัยที่อาจหนุนราคา Bitcoin (BTC) มีหลายประการ ทั้งกองทุน Bitcoin ETF ที่เริ่มเข้ามามีบทบาทและท้าทายสถานะของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย รวมถึงความต้องการใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจากเหรียญน้องใหม่อย่าง Bitcoin Hyper (HYPER) ที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว
Bitcoin Hyper ถูกยกให้เป็นโซลูชัน Layer-2 ที่เร็วที่สุดบนเครือข่าย Bitcoin โดยผสานรวมเทคโนโลยี Solana Virtual Machine (SVM) เพื่อเพิ่มความเร็ว และประสิทธิภาพในการประมวลผลให้เหนือชั้นยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลให้เกิดระบบนิเวศที่สามารถรองรับแอปพลิเคชันที่มีความซับซ้อน ซึ่งไม่สามารถทำได้บนเชนหลักของ Bitcoin และสิ่งนี้เอง อาจกลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยเพิ่มความต้องการใช้งาน BTC ในอนาคต
ปัจจุบันราคาของโทเค็น HYPER ซื้อขายอยู่ที่เพียง 0.012855 ดอลลาร์ ต่อโทเค็น และการระดมทุนของโปรเจกต์ในช่วงเริ่มต้น ก็มีนักลงทุนที่ให้การสนับสนุนแล้วเกือบ 14 ล้านดอลลาร์ แต่เหลือเวลาอีกน้อยกว่า 24 ชั่วโมงก่อนที่ราคาจะถูกปรับขึ้นในเฟสถัดไป
นักวิเคราะห์คาด Bitcoin อาจพุ่งแตะระดับ 190,000–200,000 ดอลลาร์ ภายในช่วง 6 ถึง 12 เดือนข้างหน้า
นักวิเคราะห์ CryptoELITES บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X ได้คาดการณ์ว่า ราคา Bitcoin อาจพุ่งสูงถึง 190,000 ดอลลาร์ โดยมองว่า ระดับแนวรับที่ 111,000 ดอลลาร์เป็นฐานสำคัญสำหรับการปรับตัวขึ้นในครั้งถัดไป
แม้ว่า CryptoELITES จะไม่ได้กำหนดกรอบเวลาไว้อย่างชัดเจน แต่จากการวิเคราะห์กราฟรายสัปดาห์สามารถบอกเส้นทางที่เป็นไปได้ โดยการปรับขึ้นจากระดับ 75,000 ดอลลาร์ในรอบที่ผ่านมา ใช้เวลาประมาณ 5 เดือน ซึ่งหากประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ราคา Bitcoin อาจพุ่งแตะ 190,000 ดอลลาร์ได้ก่อนสิ้นปีนี้
สถาบันวิจัยในวอลล์สตรีทส่วนใหญ่ยังมีมุมมองสอดคล้องกัน โดยนักวิเคราะห์จาก Bernstein ตั้งเป้าราคา Bitcoin ไว้ที่ 200,000 ดอลลาร์ ภายใน 6-12 เดือน และคาดว่า ตลาดกระทิงในรอบปัจจุบันจะดำเนินต่อไปจนถึงปี 2027
ปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนราคาให้สูงขึ้น มาจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นนอกเหนือจากการลงทุนแบบดั้งเดิม ซึ่งความต้องการใหม่นี้จะได้รับแรงหนุนอย่างมากจากBitcoin Hyper โดยนักลงทุนกลุ่มแรกยังคงทุ่มเงินลงทุนหลายแสนดอลลาร์ต่อวันในโปรเจกต์นี้ ด้วยความคาดหวังว่าระบบนิเวศของ Bitcoin Hyper จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีการใช้งาน Bitcoin
หาก Bitcoin Hyper ประสบความสำเร็จในการสร้างระบบนิเวศขนาดใหญ่ที่มุ่งเน้นการใช้งานจริงแทนที่จะเป็นเพียงการเก็บสะสม ความต้องการใหม่นี้จะช่วยเสริมบทบาทของ Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์เก็บมูลค่า และเร่งให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น เมื่อ Bitcoin ถูกล็อกไว้ในแอปพลิเคชันและบริดจ์ของ Bitcoin Hyper ปริมาณเหรียญที่หมุนเวียนในตลาดจะลดลง ซึ่งจะทำให้เหรียญแต่ละเหรียญที่อยู่ในตลาดมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
กลไกที่ช่วยให้ Bitcoin ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพในระดับมหาศาล
ความล้ำหน้าของ Bitcoin Hyper เริ่มต้นจาก Canonical Bridge ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถล็อก BTC บนบริดจ์นี้ และสร้าง Wrapped Bitcoin ภายในระบบนิเวศของ Hyper ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยลดปริมาณ BTC ที่หมุนเวียนบนเชนหลัก แต่ยังทำให้ Bitcoin เหล่านี้กลายเป็นสินทรัพย์ที่ใช้งานได้จริงบนโซลูชัน Layer-2
เมื่อ Bitcoin ถูกห่อหุ้มแล้ว มันจะสามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงผ่าน SVM (Solana Virtual Machine) ทำให้สามารถรองรับแอปพลิเคชันที่เชนหลักของ Bitcoin ไม่สามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็นการชำระเงินที่รวดเร็ว ไปจนถึง แพลตฟอร์ม DeFi, ตลาด NFT, เกม dApp และสินทรัพย์จริงแบบโทเค็น (RWAs)
ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความเข้ากันได้กับ SPL (Solana Program Library) นักพัฒนาจึงสามารถย้าย dApp จาก Solana มายัง Hyper ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งช่วยขยายระบบนิเวศของ Bitcoin ได้อย่างรวดเร็วและมหาศาล
ในขณะที่ Ethereum มีโซลูชัน Layer-2 หลายแห่งที่แข่งขันกัน เพื่อดึงความสนใจ แต่Bitcoin Hyper กำลังสร้างโซลูชัน Layer-2 ที่มีประสิทธิภาพสูงเป็นตัวแรกสำหรับ Bitcoin ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้บล็อกเชนที่น่าเชื่อถือที่สุดในโลกได้มีพื้นที่ในการขยายขนาด
สำหรับผู้ใช้งานแล้ว การใช้งานก็ง่ายดาย เพียงแค่ฝาก Bitcoin เข้าไป แล้วใช้ Wrapped BTC ในแอปพลิเคชันต่างๆ และเมื่อต้องการ ก็สามารถทำธุรกรรม burn เพื่อปลดล็อก BTC ดั้งเดิมกลับสู่โซลูชัน Layer-1 ได้ โดยความปลอดภัยยังคงเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด เนื่องจากความสมบูรณ์ของธุรกรรมเชื่อมโยงโดยตรงกับระบบ proof-of-work ของ Bitcoin
ผลลัพธ์ที่ได้คือ บล็อกเชนที่รวมความปลอดภัยของ Bitcoin เข้ากับความเร็ว และความสามารถในการขยายขนาดของ Solana ซึ่งจะช่วยขยายขอบเขตการใช้งานของ Bitcoin ให้เป็นมากกว่าแค่ “ทองคำดิจิทัล”
อัปเดตระบบนิเวศของ Bitcoin Hyper
ปัจจุบัน การพัฒนาของ Bitcoin Hyper กำลังก้าวไปอย่างเป็นขั้นเป็นตอน โดยล่าสุด Rollup ขนาดเต็มสำหรับ Bitcoin ก็ได้เริ่มเป็นรูปเป็นร่างบน SVM ตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา
ซึ่งเงินทุนที่ได้จากการระดมทุนในช่วงเริ่มต้น นำไปใช้ในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานหลักอย่างเต็มที่ ทั้งในส่วนของการวิจัยเพื่อทำ settlement ของ rollup บน Bitcoin Layer-1 การสร้างต้นแบบเพื่อทดสอบการทำงานของ SVM และการออกแบบเบื้องต้นสำหรับเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับนักพัฒนา
ทีมงานยังคงประสานงานอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรในระบบนิเวศที่เตรียมพร้อมจะเปิดตัวบน Bitcoin Hyper ทันทีที่เครือข่ายพร้อมใช้งาน
โดยขั้นตอนต่อไปตามแผนงานคือ การปรับปรุงลำดับขั้นตอนการทำงานที่เชื่อมโยงกับ Bitcoin รวมถึงการปรับเวิร์คโฟลว์ สำหรับนักพัฒนาที่ใช้ SVM contracts นอกจากนี้ ยังจะมีการเปิดตัว RPCs, indexers และ explorers เพื่อให้โครงสร้างพื้นฐานนี้ใช้งานได้ง่ายขึ้น
ซึ่งทั้งหมดนี้จะปูทางให้ผู้สร้างโปรเจกต์สามารถนำแอปพลิเคชันขึ้นใช้งานได้ก่อนที่จะเปิดตัว mainnet อย่างเป็นทางการ
สำหรับนักลงทุน การสนับสนุนทุกครั้งในโปรเจกต์ระดมทุนช่วงเริ่มต้น จึงเป็นการช่วยขับเคลื่อนความก้าวหน้าอย่างชัดเจน และ Bitcoin Hyper ก็ได้แสดงให้เห็นแบบเรียลไทม์ว่า การรวมความปลอดภัยของ Bitcoin เข้ากับฐานนักพัฒนาของ Solana จะช่วยสร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับแอปพลิเคชันและการเติบโตในโลกความเป็นจริง โดยไม่กระทบต่อ Bitcoin ดั้งเดิมเลยแม้แต่น้อย
ด้วยยอดของโปรเจกต์ระดมทุนในช่วงเริ่มต้น ที่ใกล้แตะ 14 ล้านดอลลาร์ Bitcoin Hyper มีเงินทุนที่มากพอที่จะรับประกันการเปิดตัวโซลูชัน Layer-2 ได้อย่างราบรื่น การระดมทุนในระดับนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้การพัฒนาเดินหน้าได้อย่างรวดเร็วเท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่แท้จริงของโทเคน HYPER
โทเคน HYPER จะถูกนำมาใช้สำหรับค่าธรรมเนียมก๊าซ (gas fees), เป็นรางวัลสำหรับการ staking, การมีส่วนร่วมในการกำกับดูแล (governance) รวมถึงการเข้าถึงการเปิดตัวโปรเจกต์ต่าง ๆ ภายในระบบนิเวศ ซึ่งการตอบรับที่ดีในการระดมทุนในช่วงเริ่มต้นนี้ ถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความต้องการที่จะเกิดขึ้น เมื่อโทเคนเข้าสู่ตลาดแลกเปลี่ยนในอนาคต
แต่ก็มีข้อจำกัดด้านเวลาเช่นกัน เนื่องจากการระดมทุนในช่วงเริ่มต้นในแต่ละเฟสมีจำนวนจำกัด และเมื่อถึงเป้าหมายที่กำหนดไว้ โปรเจกต์ในช่วงเริ่มต้นก็จะสิ้นสุดลงทันที ซึ่งจากแรงเข้าร่วมที่ร้อนแรงเช่นนี้ จุดนั้นอาจจะมาถึงเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้
ในตอนนี้ คุณยังสามารถเข้าร่วมกับโทเคนได้ในราคาช่วงเริ่มต้น โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ Bitcoin Hyper
แล้วเชื่อมต่อ Best Wallet ซึ่งเป็นหนึ่งในกระเป๋าเงินคริปโตชั้นนำ ที่ได้เปิดให้เข้าถึงโดยตรง โดยมีการแสดงโทเคน HYPER ในหมวด Upcoming Tokens ซึ่งช่วยให้คุณสามารถซื้อ ติดตาม และเคลมโทเคนได้อย่างสะดวกสบายเมื่อโทเคนเริ่มเปิดใช้งาน
คุณสามารถติดตามชุมชนบน Telegram และ X เพื่อรับการอัปเดตแบบเรียลไทม์ได้เลย
หากสนใจโปรเจกต์สามารถเข้าไปศึกษาBitcoin Hyper เพิ่มเติม ได้แล้ว
| เช็คลิสต์ | รายละเอียด | สถานะ |
|---|---|---|
| 1. เว็บไซต์ & Whitepaper | โปรเจกต์มีเว็บไซต์ที่ดูน่าเชื่อถือ และมีเอกสาร Whitepaper ที่ระบุข้อมูลชัดเจนไม่กำกวม | ✔️ |
| 2. ความโปร่งใสของทีมงาน | ทีมพัฒนามีการเปิดเผยตัวตนชัดเจนไม่ได้ปกปิดข้อมูลแต่อย่างใด | ❌ |
| 3. Tokenomics | เหรียญมีการแจกแจงการปันส่วนที่สมเหตุผล และฝ่ายใดถือครองจนมากเกินไป | ✔️ |
| 4.Smart Contract | Smart contract มีความโปร่งใสและถูกตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีการใส่โค้ดแอบแฝงเพื่อโจมตีนักลงทุน | ✔️ |
| 5. มีกำหนดการชัดเจน | โปรเจกต์มีการกำหนดวันสิ้นสุดการระดมทุนพรีเซล รวมถึงวันลิสต์เหรียญอย่างชัดเจน | ❌ |
| 6. ผู้ใช้สามารถถอนเงินได้ | กรณีเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดขึ้น นักลงทุนยังคงสามารถทำการถอนเงินคืนได้ | ⚠️ (ไม่ชัดเจน) |
| 7. คอมมูนิตี้ | โปรเจกต์มีชุมชนคอยให้การสนับสนุนจริง ไม่ได้ถูกรันด้วยบอทเพียงอย่างเดียว | ✔️ |
| 8. สภาพคล่อง | โปรเจกต์มีการล็อกสภาพคล่องเพื่อระงับไม่ให้เกิดการ Rug pull ขึ้น | ❌ |
| 9. สัญญาณอันตราย | โปรเจกต์ไม่มีสัญญาณอันตราย เช่น การระดมทุนจะสิ้นสุดเมื่อราคาถึงระดับ XXX เป็นต้น | ⚠️ (ไม่ชัดเจน) |
| อ่านรายละเอียดเช็คลิสต์เพิ่มเติมได้ที่นี่ | ||
บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์คริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุนคริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ โปรดศึกษาข้อมูลให้รอบคอบและลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่ท่านยอมรับได้ ทาง Siam Blockchain รวมถึงผู้บริหารและพนักงานของบริษัท ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบในทุกกรณีหากเกิดความเสียหายจากการลงทุนของท่าน
บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์