Google เปิดทาง AI Agent ใช้ Stablecoin จ่ายเงิน : ยุคใหม่ของการชำระเงินแบบอัตโนมัติ

ติดตามสยามบล็อกเชนบน

ลองนึกภาพว่าคุณมีผู้ช่วยส่วนตัวที่ฉลาดมากพอที่จะไปซื้อของให้คุณ จ่ายเงินเอง และจัดส่งมาให้ถึงบ้านโดยไม่ต้องให้คุณกด “ยืนยันการสั่งซื้อ” ทุกครั้ง นี่คือสิ่งที่ Google กำลังมอบให้กับเราผ่านโปรโตคอล Agent Payments Protocol (AP2) ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ ซึ่งอนุญาตให้ AI Agent สามารถใช้ Stablecoin ชำระเงินได้ด้วยตัวเอง

โปรโตคอลนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การพัฒนาเทคโนโลยีอย่างเดียว แต่เป็นการวางรากฐานสำหรับ “เศรษฐกิจเครื่องจักร” หรือ Machine-to-Machine Commerce ที่ AI สามารถซื้อขายกันเองได้โดยไม่ต้องมีคนคอยกดปุ่มอยู่ตลอดเวลา

วิธีการทำงานจริงของระบบ

การใช้งาน Stablecoin กับ AI Agent ผ่านโปรโตคอล AP2 มีขั้นตอนที่เข้าใจง่าย เริ่มต้นจากการเชื่อมโยงกระเป๋า Stablecoin เข้ากับ AI Agent เหมือนกับการที่เราผูกบัตรเครดิตเข้ากับแอปช้อปปิ้ง แต่ต่างกันตรงที่ AI จะไม่สามารถเข้าถึง Private Key ของคุณได้โดยตรง มันจะได้รับเพียงสิทธิ์ในการทำธุรกรรมตามที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น

จากนั้นผู้ใช้จะต้องสร้างสัญญาดิจิทัลที่เรียกว่า “Mandates” เพื่อกำหนดเงื่อนไขการใช้จ่าย เช่น งบประมาณไม่เกิน 5,000 บาท ซื้อได้เฉพาะหมวดหมู่อาหารและเครื่องดื่ม หรือทำธุรกรรมได้เฉพาะในช่วงเวลาที่กำหนด เมื่อ AI พบสินค้าที่ตรงกับเงื่อนไขแล้ว มันจะใช้ Stablecoin ชำระเงินโดยอัตโนมัติ โดยที่คุณไม่ต้องมากดอนุมัติทุกครั้ง

ที่มาภาพ : marktechpost

ตัวอย่างการใช้งาน

ลองจินตนาการว่าคุณเป็นเจ้าของร้านกาแฟขนาดเล็ก คุณสามารถตั้งโปรแกรม AI Agent ให้ดูแลการสั่งซื้อเมล็ดกาแฟโดยอัตโนมัติ เมื่อสต็อกเหลือน้อยกว่า 10 กิโลกรัม AI จะไปหาซัพพลายเออร์ที่มีราคาดีที่สุด เปรียบเทียบคุณภาพ และสั่งซื้อด้วย Stablecoin ทันที โดยคุณกำหนดไว้ว่าซื้อได้ครั้งละไม่เกิน 50,000 บาท และต้องเป็นเมล็ดกาแฟเกรด A เท่านั้น

หรืออีกตัวอย่างหนึ่งคือการใช้ AI Agent เพื่อจัดการค่าใช้จ่ายในบริษัท เมื่อพนักงานต้องการซื้อวัสดุสำนักงาน AI จะตรวจสอบราคาจากหลายร้าน เปรียบเทียบคุณภาพ และเลือกซื้อจากร้านที่คุ้มค่าที่สุด จ่ายด้วย Stablecoin และส่งใบเสร็จให้แผนกบัญชีโดยอัตโนมัติ

ความปลอดภัย

เนื่องจากเป็นเรื่องเกี่ยวกับเงิน ๆ ทอง ๆ ความปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด โปรโตคอล AP2 ถูกออกแบบให้มีความสามารถในการติดตาม (traceable) ทุกธุรกรรม ทำให้สามารถตรวจสอบได้ว่า เงินไหลไปทางไหนบ้าง สัญญา “Mandates” ที่ผู้ใช้สร้างขึ้นจะถูกเข้ารหัสและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ทำให้มั่นใจว่า AI จะปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด

นอกจากนี้ระบบยังมีกลไกการตรวจสอบความถูกต้องแบบ 3A คือ Authorization (การอนุญาต), Authenticity (ความถูกต้อง) และ Accountability (ความรับผิดชอบ) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าการทำธุรกรรมทุกครั้งได้รับการอนุมัติจากเจ้าของบัญชีจริงๆ

Stablecoin กลายเป็นสกุลเงินของ AI

การรองรับ Stablecoin ในโปรโตคอล AP2 ของ Google ไม่ใช่แค่การเพิ่มตัวเลือกการชำระเงินเท่านั้น แต่เป็นการปูทางให้ Stablecoin กลายเป็น “สกุลเงินหลักของโลก AI” ในอนาคต เหตุผลง่ายๆ คือ AI Agent ไม่สามารถใช้เงินสดหรือบัตรเครดิตได้เหมือนมนุษย์ แต่ Stablecoin เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ AI สามารถจัดการได้เองอย่างสมบูรณ์

ลองนึกดูว่า เมื่อ AI Agent หลายล้านตัวทั่วโลกเริ่มใช้ Stablecoin เป็นสื่อกลางในการซื้อขายกัน มันจะเกิด “เศรษฐกิจ AI” ที่แยกออกจากระบบธนาคารแบบดั้งเดิม AI สามารถจ่ายค่าบริการระหว่างกัน ซื้อข้อมูล แลกเปลี่ยนการประมวลผล หรือจ้างงานกันเองโดยไม่ต้องรอการอนุมัติจากมนุษย์

การเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้ Stablecoin มีบทบาทใหม่ในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน แทนที่จะเป็นแค่เครื่องมือเก็งกำไรหรือหลบหนีเงินเฟ้อ Stablecoin จะกลายเป็นเส้นเลือดใหญ่ของระบบเศรษฐกิจดิจิทัลที่ AI เป็นตัวขับเคลื่อน ซึ่งอาจมีขนาดใหญ่กว่าเศรษฐกิจแบบดั้งเดิมในอนาคต

เมื่อถึงจุดนั้น Stablecoin จะไม่ใช่แค่เหรียญที่ราคาคงที่อีกต่อไป แต่จะเป็น “DNA ทางการเงิน” ของอารยธรรมดิจิทัลที่ AI เป็นคนสร้าง

อนาคตอยู่ใกล้แค่เอื้อม

Google ได้ร่วมมือกับ Coinbase และบริษัทชั้นนำกว่า 60 แห่ง เช่น Mastercard, PayPal, American Express, Salesforce รวมถึง Ant International ในการพัฒนาโปรโตคอลนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความจริงจังในการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้งานจริง

การที่ AI Agent สามารถใช้ Stablecoin ชำระเงินได้เองนั้น ไม่ใช่แค่การพัฒนาด้านเทคนิคเท่านั้น แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคของมนุษย์ในอนาคต เราอาจไม่ต้องเสียเวลาไปช้อปปิ้งออนไลน์ด้วยตัวเอง แต่ให้ AI ทำแทนและจ่ายด้วย Stablecoin ที่เร็วและปลอดภัย

สำหรับผู้ที่สนใจเทคโนโลยี Stablecoin นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของยุคการนำ สินทรัพย์ดิจิทัลไปใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่การเก็งกำไรในตลาดคริปโตอีกต่อไป

ลิงก์ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ที่มา : theblock