หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25 จุดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคา Bitcoin (BTC) พุ่งทะยานขึ้นเหนือระดับ $117,000 ซึ่งถือเป็นการสิ้นสุดช่วงเวลาที่นักลงทุนเฝ้ารอความชัดเจนจากการประชุม FOMC หลังจากที่ราคาพยายามทรงตัวเหนือ $115,000 มาหลายสัปดาห์
ขณะที่ตลาดเริ่มจับตาราคาบิทคอยน์กลับไปทดสอบจุดสูงสุดเดิม นักลงทุนเชื่อว่าจำเป็นต้องมีแรงหนุนที่แข็งแกร่งกว่านี้ เพื่อผลักดันราคา Bitcoin ไปสู่ All-Time High (ATH) อีกครั้ง และหนึ่งในผู้ท้าชิงที่ถูกจับตามองคือ Bitcoin Hyper (HYPER) ซึ่งเป็นโซลูชัน Layer-2 ที่เร็วที่สุดของ Bitcoin
Bitcoin Hyper ซึ่งอยู่ในระหว่างการพัฒนาและสามารถระดมทุนในช่วงโปรเจกต์เริ่มต้น ได้แล้วกว่า 16.5 ล้านดอลลาร์ จึงถูกมองว่าจะเป็นตัวกระตุ้นความต้องการใหม่ให้กับ Bitcoin ด้วยการสร้างระบบนิเวศที่ทำให้ Bitcoin ก้าวข้ามจากเพียงการเป็นสินทรัพย์เพื่อการสะสม ไปสู่การใช้งานจริงในรูปแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นบนเชนหลักมาก่อน จึงเป็นอีกหนึ่งเหรียญของโปรเจกต์ระดมทุนในช่วงเริ่มต้นที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง
ปัจจุบัน ราคา HYPER ซื้อขายอยู่ที่ 0.012935 ดอลลาร์ ต่อโทเคน และจะปรับขึ้นในเฟสถัดไปภายใน 22 ชั่วโมงข้างหน้า
เมื่อ Fed ส่งสัญญาณผ่อนคลาย นับเป็นจังหวะที่ตลาดมาจับตามองว่า Bitcoin จะต่อยอดสู่การใช้งานรูปแบบใหม่ได้อย่างไร
คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25 จุด ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงทิศทางนโยบายการเงินที่สำคัญในรอบหลายเดือน
การตัดสินใจในครั้งนี้ไม่ได้เหนือความคาดหมายของตลาด เนื่องจากก่อนหน้านี้มีสัญญาณที่ชัดเจนจากตัวเลขเงินเฟ้อที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นให้มีการผ่อนคลายสภาพทางการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ได้เปิดเผยว่า อาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีก 2 ครั้งในปีนี้ ครั้งละ 0.25 จุด โดยขึ้นอยู่กับทิศทางของข้อมูลเศรษฐกิจที่จะมีการประกาศออกมา
ท่ามกลางความคาดหวังดังกล่าว ตลาดคริปโตปรับตัวขึ้นถ้วนหน้า โดยราคา Bitcoin พุ่งทะลุ $117,000 ซึ่งนักลงทุนต่างคาดหวังว่า นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลงจะเป็นแรงขับเคลื่อนรอบใหม่ให้กับตลาด
หากมีการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในช่วงไตรมาสสุดท้าย ราคา Bitcoin ก็อาจพุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ได้
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์บางส่วนยังมองว่า แนวโน้มขาขึ้นอาจไปได้ไกลกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดย Arthur Hayes ผู้ก่อตั้ง BitMEX เชื่อว่า Bitcoin อาจพุ่งแตะ $200,000 ภายในสิ้นปีนี้ พร้อมกับย้ำในการให้สัมภาษณ์กับ Kyle Chasse ว่า ตลาดกระทิงยังไม่สิ้นสุด และอาจต่อเนื่องยาวไปจนถึงปีหน้า
สำหรับ Arthur Hayes มีมุมมองว่า สภาพคล่องที่เกิดจากการลดค่าของเงิน จะไหลเข้าสู่สินทรัพย์ที่มีความมั่นคงอย่าง Bitcoin โดยอัตโนมัติ ซึ่งเป็นการตอกย้ำบทบาทของ Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์เพื่อการเก็บรักษามูลค่า
อย่างไรก็ตาม คำถามที่น่าสนใจคือ การลดดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียวจะสามารถผลักดันราคา Bitcoin ให้ไปถึงเป้าหมาย $200,000 ได้หรือไม่ หรือยังต้องอาศัยแรงสนับสนุนอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น การขยายตัวของการใช้งาน Bitcoin ในภาคส่วน DeFi และแอปพลิเคชันต่าง ๆ
ความสามารถในการใช้งานที่กว้างขวางขึ้นนี้เองคือ สิ่งที่โปรเจกต์อย่าง Bitcoin Hyper ตั้งเป้าที่จะปลดล็อก ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยเสริมเส้นทางขาขึ้นของ Bitcoin แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับระบบนิเวศและตัวโปรเจกต์เองด้วย
สถาปัตยกรรมของ Bitcoin Hyper
Bitcoin Hyper ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อเป็นโซลูชัน Layer-2 ที่เร็วที่สุดของ Bitcoin โดยมีเป้าหมายหลักคือ การทำให้เครือข่าย Bitcoin สามารถรองรับการเขียนโปรแกรมในระดับที่กว้างขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
การทำงานของ Bitcoin Hyper อาศัยการผสาน Solana Virtual Machine (SVM) ซึ่งเป็นชั้นประมวลผลเดียวกับที่ขับเคลื่อนแอปพลิเคชันที่รวดเร็ว และประหยัดค่าธรรมเนียมที่สุดในโลกคริปโต ด้วยเหตุนี้ นักพัฒนาจึงสามารถสร้าง dApp (Decentralized Application) ประสิทธิภาพสูง ด้วยภาษา Rust พร้อมทั้งเชื่อมต่อกิจกรรมทั้งหมดกลับไปยังเครือข่าย Bitcoin ได้อย่างสมบูรณ์
การชำระเงินในระบบจะยังคงยึดโยงกับ Bitcoin ผ่าน Canonical Bridge ซึ่งทำหน้าที่เป็นทางเข้าเดียวสู่ระบบนิเวศ Hyper โดยผู้ใช้สามารถล็อก BTC ไว้ใน Bridge เพื่อสร้าง Wrapped BTC (wBTC) ใน Layer- 2 ซึ่ง wBTC นี้จะถูกใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนภายใน dApp
เมื่อผู้ใช้งานต้องการถอนเหรียญกลับ wBTC จะถูกเผา (burn) และ BTC ต้นฉบับก็จะถูกส่งคืนให้กับผู้ใช้
ด้วยการออกแบบเช่นนี้ Bitcoin Hyper จึงผสานจุดเด่นของทั้งสองโลกเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่ง แอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (dApp) สามารถทำงานด้วยความเร็วและประสิทธิภาพสูงในระดับเดียวกับ Solana ขณะที่การรักษาความปลอดภัยและการชำระเงินยังคงอิงอยู่กับเลเยอร์หลักของ Bitcoin ซึ่งเป็นบล็อกเชนที่กระจายอำนาจและปลอดภัยที่สุดในโลก

แหล่งที่มา: https://bitcoinhyper.com/
ถ้า Bitcoin พุ่งถึง $200,000 ราคา HYPER จะเป็นเท่าไหร่ ?
HYPER เป็นโทเคนยูทิลิตี้หลักของเครือข่าย Bitcoin Hyper โดยมีบทบาทสำคัญหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการทำหน้าที่เป็นค่าแก๊สสำหรับทุกธุรกรรม, การเสริมความปลอดภัยของเครือข่ายผ่านการ Stake, และการเป็นโทเคนกำกับดูแลที่ให้ผู้ถือมีสิทธิ์กำหนดทิศทางในอนาคตของ Layer-2 แห่งนี้
HYPER จะกลายเป็นสื่อกลางสำคัญของเศรษฐกิจที่สามารถเขียนโปรแกรมได้บนเครือข่าย Bitcoin เนื่องจากทุกแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (dApp), Stablecoin, โปรโตคอลการกู้ยืม, หรือแม้แต่เกมที่ถูกพัฒนาบน Bitcoin Hyper จะต้องใช้ HYPER ในการดำเนินงาน
ปัจจุบัน HYPER มีราคาระดมทุนในช่วงโปรเจกต์เริ่มต้น ที่ $0.012935 ต่อโทเคน HYPER ซึ่งมีมูลค่าหลักเต็ม (Fully Diluted Valuation) ประมาณ $272 ล้าน จากจำนวนโทเคนทั้งหมด 21,000 ล้านโทเคน แม้มูลค่านี้อาจดูสูง แต่เมื่อเทียบกับโทเคน Layer-2 ชั้นนำบนเครือข่าย Ethereum แล้ว ยังถือว่ามีขนาดที่เล็กมาก โดย Mantle (MNT) มีมูลค่าประมาณ $5.5 พันล้าน, Arbitrum (ARB) มีมูลค่าอยู่ที่ $2.7 พันล้าน, และ Optimism (OP) อยู่ที่ $1.4 พันล้าน

แหล่งที่มา: https://www.coingecko.com/en/categories/layer-2#key-stats
หากพิจารณาศักยภาพในการเติบโตของ Bitcoin Hyper ลองจินตนาการว่า มีเพียง 1% ของจำนวน Bitcoin ทั้งหมดในระบบ (ประมาณ 195,000 BTC) ถูกโอนเข้ามาอยู่ในเครือข่าย Hyper และราคา Bitcoin พุ่งขึ้นไปที่ $200,000 มูลค่าของสินทรัพย์ที่หมุนเวียนภายในระบบนิเวศ Hyper นี้จะสูงถึงประมาณ 3.9 หมื่นล้านดอลลาร์
เมื่อเปรียบเทียบมูลค่าของ HYPER กับมูลค่าหลักเต็ม (Fully Diluted Valuation) ในปัจจุบันที่ 272 ล้านดอลลาร์ จะเห็นว่ามูลค่าที่ถูกล็อกอยู่ในระบบนั้นมากกว่ามูลค่าตลาดของโทเคนถึงกว่า 140 เท่า ซึ่งบ่งชี้ถึงโอกาสในการเติบโตอย่างมหาศาล
ถึงแม้ว่า HYPER จะมีมูลค่าเพียงบางส่วน เมื่อเทียบกับโซลูชัน Layer-2 ชั้นนำบน Ethereum ในปัจจุบัน แต่ผู้ที่เข้าร่วมตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นโปรเจกต์ก็ยังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนมหาศาลจากราคาที่ซื้อมา
แนวทางเดียวที่จะทำให้ได้ผลตอบแทนสูงสุดจาก HYPER
เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสสำคัญ แนวทางที่ดีที่สุดคือ การเข้าร่วมลงทุนใน HYPER ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น เพราะตอนนี้โทเคนยังมีราคาต่ำ ซึ่งเหมาะแก่การเข้าร่วม ก่อนที่โทเคนจะถูกลิสต์บนกระดานเทรดชั้นนำ ซึ่งจะทำให้มูลค่าของโทเคนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
คุณสามารถเข้าร่วม HYPER ได้ผ่านเว็บไซต์ Bitcoin Hyper โดยเชื่อมต่อกับกระเป๋าเงิน Best Wallet ซึ่งเป็นหนึ่งในกระเป๋าคริปโตและ Bitcoin ชั้นนำ
ทั้งนี้ HYPER ถูกลิสต์แล้วในหมวด “Upcoming Tokens” ของ Best Wallet ทำให้คุณซื้อ ติดตาม และเคลมโทเค็นได้อย่างสะดวกเมื่อเปิดใช้งาน
สามารถเข้าร่วมชุมชน Bitcoin Hyper บน Telegram และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X เพื่อติดตามข่าวสารและอัปเดตล่าสุด
หากสนใจโปรเจกต์สามารถเข้าไปศึกษา Bitcoin Hyper เพิ่มเติม ได้แล้ว
| เช็คลิสต์ | รายละเอียด | สถานะ |
|---|---|---|
| 1. เว็บไซต์ & Whitepaper | โปรเจกต์มีเว็บไซต์ที่ดูน่าเชื่อถือ และมีเอกสาร Whitepaper ที่ระบุข้อมูลชัดเจนไม่กำกวม | ✔️ |
| 2. ความโปร่งใสของทีมงาน | ทีมพัฒนามีการเปิดเผยตัวตนชัดเจนไม่ได้ปกปิดข้อมูลแต่อย่างใด | ❌ |
| 3. Tokenomics | เหรียญมีการแจกแจงการปันส่วนที่สมเหตุผล และฝ่ายใดถือครองจนมากเกินไป | ✔️ |
| 4.Smart Contract | Smart contract มีความโปร่งใสและถูกตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีการใส่โค้ดแอบแฝงเพื่อโจมตีนักลงทุน | ✔️ |
| 5. มีกำหนดการชัดเจน | โปรเจกต์มีการกำหนดวันสิ้นสุดการระดมทุนพรีเซล รวมถึงวันลิสต์เหรียญอย่างชัดเจน | ❌ |
| 6. ผู้ใช้สามารถถอนเงินได้ | กรณีเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดขึ้น นักลงทุนยังคงสามารถทำการถอนเงินคืนได้ | ⚠️ (ไม่ชัดเจน) |
| 7. คอมมูนิตี้ | โปรเจกต์มีชุมชนคอยให้การสนับสนุนจริง ไม่ได้ถูกรันด้วยบอทเพียงอย่างเดียว | ✔️ |
| 8. สภาพคล่อง | โปรเจกต์มีการล็อกสภาพคล่องเพื่อระงับไม่ให้เกิดการ Rug pull ขึ้น | ❌ |
| 9. สัญญาณอันตราย | โปรเจกต์ไม่มีสัญญาณอันตราย เช่น การระดมทุนจะสิ้นสุดเมื่อราคาถึงระดับ XXX เป็นต้น | ⚠️ (ไม่ชัดเจน) |
| อ่านรายละเอียดเช็คลิสต์เพิ่มเติมได้ที่นี่ | ||
บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์คริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุนคริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ โปรดศึกษาข้อมูลให้รอบคอบและลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่ท่านยอมรับได้ ทาง Siam Blockchain รวมถึงผู้บริหารและพนักงานของบริษัท ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบในทุกกรณีหากเกิดความเสียหายจากการลงทุนของท่าน
บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์

