<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum ลั่น !โปรโตคอล DeFi ความเสี่ยงต่ำเปรียบเสมือน Search Engine บน Google

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum ชี้ว่า โปรโตคอล Decentralized Finance ( DeFi) ที่มีความเสี่ยงต่ำ อาจกลายเป็น “แหล่งรายได้หลัก” ที่ทำให้เครือข่าย Ethereum แข็งแกร่งทางการเงินได้ เหมือนกับที่ Google Search กลายเป็นหัวใจสำคัญในการทำเงินของ Google แม้บริษัทจะมีผลิตภัณฑ์อื่น ๆ มากมาย

ในบล็อกโพสต์เมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา Buterin อธิบายว่า DeFi ประเภทดังกล่าวสามารถแก้ปัญหา “ความไม่ลงรอยกัน” ภายในชุมชน Ethereum ได้ เนื่องจากที่ผ่านมารายได้ส่วนใหญ่มักจะมาจาก NFT, เหรียญมีม และการเก็งกำไร ขณะที่แอปพลิเคชันที่สะท้อนคุณค่าทางวัฒนธรรมหรือจริยธรรมของ Ethereum กลับไม่สามารถสร้างรายได้ที่มากพอ ดังนั้นการพัฒนา DeFi ความเสี่ยงต่ำจึงอาจเป็นทางออกที่ทำให้เครือข่ายเดินหน้าต่อได้โดยไม่ละทิ้งอุดมการณ์เดิม

หนึ่งในตัวอย่างที่เขายกขึ้นมาคือ อัตราดอกเบี้ยเงินฝากของ Stablecoin บนโปรโตคอล Aave ซึ่งให้ผลตอบแทนราว 5% สำหรับเหรียญอย่าง USDT และ USDC และมากกว่า 10% สำหรับ Stablecoin ที่มีความเสี่ยงสูงกว่า เขามองว่ารายได้รูปแบบนี้สามารถเสริมความมั่นคงให้ Ethereum ได้ในระยะยาว

Buterin ยังเปรียบเทียบเรื่องนี้กับ Google โดยชี้ว่า บริษัทมีผลิตภัณฑ์มากมาย เช่น Chromium, สมาร์ทโฟน Pixel หรือโมเดล AI อย่าง Gemini แต่รายได้หลักกลับพึ่งพา Search Engine และโฆษณาเป็นหลัก ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ธุรกิจที่สร้างรายได้จริง ๆ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นสิ่งดูน่าตื่นเต้นเสมอไป 

อย่างไรก็ตาม Buterin ได้วิจารณ์โมเดลธุรกิจของ Google อย่างตรงไปตรงมาว่า การที่บริษัทต้องพึ่งพารายได้จากโฆษณา ทำให้พวกเขาจำเป็นต้องเก็บข้อมูลผู้ใช้จำนวนมหาศาล ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดแย้งกับหลักการดั้งเดิมของบริษัทที่เคยส่งเสริมการเปิดกว้าง (Open-source) และการสร้างคุณค่าที่ทุกฝ่ายได้รับประโยชน์ (Positive-sum)

ทั้งนี้ มุมมองของ Buterin เกิดขึ้นในช่วงที่มูลค่าทรัพย์สินที่ถูกล็อก (TVL) ในระบบนิเวศ DeFi ของ Ethereum เพิ่งทะลุ 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2022 ท่ามกลางตลาดคริปโตที่เริ่มฟื้นตัว และกฎระเบียบใหม่ ๆ อย่างพัฒนาการของร่างกฎหมาย Clarity Act กำลังช่วยผลักดันให้เกิดการใช้งาน DeFi เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ Buterin ยังเสนอให้มีนวัตกรรมใหม่ ๆ เช่น ตะกร้าสกุลเงิน (Basket Currencies) และ สกุลเงินดิจิทัลที่ผูกกับดัชนีราคาผู้บริโภค (Flatcoins) เพื่อเสริมศักยภาพทางเศรษฐกิจของ Ethereum ให้หลากหลายขึ้น และเขาได้ย้ำว่า ด้วยความเป็นระบบกระจายศูนย์ Ethereum อาจทำได้ดีกว่า Google เพราะสามารถเชื่อมโยงความสำเร็จทางการเงินเข้ากับผลลัพธ์ทางจริยธรรมได้โดยตรง

ที่มา:cointelegraph

ลิงค์ข่าวที่เกี่ยวข้อง